การปลูกต้นไม้ฟอกอากาศได้รับความนิยมมากขึ้นหลังจากปี 2021 เมื่อผู้คนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพและมลพิษ PM2.5 โดยงานวิจัยของ NASA ชี้ว่าต้นไม้บางชนิดสามารถดูดซับสารพิษและลดคาร์บอนมอนอกไซด์ในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดกระแสการปลูกต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอน ที่ไม่เพียงช่วยลดมลพิษแต่ยังช่วยเพิ่มคุณภาพในการนอนหลับที่ดีได้อีกด้วย
บทความนี้ได้รวบรวม 10 ต้นไม้ฟอกอากาศยอดนิยมที่หาซื้อง่าย ราคาดี เหมาะกับการนำมาใช้ในบ้านสุดๆ
ข้อดีของการปลูกต้นไม้ฟอกอากาศ
การปลูกต้นไม้ฟอกอากาศมีความสามารถในการลดฝุ่นละออง PM2.5, เพิ่มความชื้นในอากาศ, ลดความเครียดสะสม และสร้างบรรยากาศที่สดชื่น โดยเฉพาะกับความสามารถในการดูดซับสารพิษ เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ เบนซีน และไตรคลอโรเอทิลีน ผ่านกระบวนการที่เรียกว่าการหายใจทางปากใบ และหากใช้ร่วมกับเครื่องฟอกอากาศก็จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการลดมลพิษและสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการพักผ่อนมากยิ่งขึ้น
แนะนำ 10 ต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน ฟอกอากาศในห้องนอน
ต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน นอกจากจะช่วยตกแต่งห้องให้สวยงามแล้ว ยังช่วยดูดสารพิษอย่าง PM2.5 และคาร์บอนมอนอกไซด์ ทำให้บรรยากาศในห้องดูสะอาดและสดชื่น เติมเต็มการพักผ่อนจากปริมาณออกซิเจนที่สูงขึ้น และนี่ก็คือ 10 ต้นไม้ฟอกอากาศที่ปลอดภัยและง่ายต่อการดูแล
1. ไทรใบสัก (Ficus Benjamina)
ไทรใบสักเป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยลักษณะพิเศษที่สามารถดูดสารพิษอย่างฟอร์มาลดีไฮด์และเบนซีนได้ ใบเรียวมีสีเขียวเข้ม สร้างบรรยากาศที่อบอุ่น เหมาะสำหรับวางในห้องนอนขนาดกลางถึงใหญ่
วิธีดูแล: ต้องการแสง รดน้ำสัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง แต่ไม่ชอบน้ำขัง
ข้อจำกัด: ถ้าอากาศแห้งเกินไป ใบจะกรอบและร่วงง่าย
2. พลูด่าง (Epipremnum Aureum)
พลูด่างเป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่เหมาะสำหรับใช้ในห้องนอน ช่วยดูดสารพิษอย่างเบนซีนและคาร์บอนมอนอกไซด์ได้ดี เป็นพืชเถาเลื้อยในวงศ์ Araceae ที่ดูแลง่ายและปรับตัวได้ดีต่อแสงน้อย เหมาะกับห้องนอนขนาดเล็ก หรือห้องทำงาน วางในกระถางแขวนหรือโต๊ะก็ได้
วิธีดูแล: ทนต่อแสงน้อยแต่โตง่าย รดน้ำอาทิตย์ละ 1–2 ครั้ง
ข้อจำกัด: มีสารพิษในใบ ควรให้อยู่ห่างจากสัตว์เลี้ยงหรือเด็กเล็ก
3. วาสนา (Peace Lily)
วาสนามีความสามารถในการดูดซับแอมโมเนีย ฟอร์มาลดีไฮด์ และสารพิษหลายชนิด รวมถึงลดฝุ่น PM2.5 ได้อีกด้วย เป็นต้นไม้ที่ฟอกอากาศได้ดีทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน เหมาะกับห้องนอนเพราะช่วยเพิ่มความชื้น
วิธีดูแล: ต้องการแสง แต่ไม่ควรโดนแดดตรง ๆ ควรรดน้ำสม่ำเสมอ
ข้อจำกัด: ถ้ารดน้ำมากเกินไป รากจะเน่าได้ง่าย
4. เฟิร์นบอสตัน (Boston Fern)
เฟิร์นบอสตันเหมาะสำหรับผู้ที่อยากเพิ่มความชื้นและทำให้อากาศสดชื่น เพราะใบเฟิร์นสามารถดูดสารพิษ ฟอร์มาลดีไฮด์ และฝุ่นละเอียดได้ดี เหมาะกับห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ เช่น ห้องนอน เพราะช่วยไม่ให้ผิวแห้งและระบายอากาศได้ดี
วิธีดูแล: พยายามรดน้ำบ่อยๆ และควรพรมใบเพื่อเพิ่มความชื้น
ข้อจำกัด: ไม่ทนต่ออากาศแห้ง ต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอ
5. ลิ้นมังกร (Snake Plant)
ลิ้นมังกรเป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่มีจุดเด่นที่ความแข็งแรงทนทาน สามารถอยู่ในแสงน้อยและไม่ต้องดูแลมาก มีความสามารถในการดูดคาร์บอนมอนอกไซด์และสารพิษอื่น ๆ พร้อมปล่อยออกซิเจนในเวลากลางคืนตามการสังเคราะห์แสงแบบ CAM (Crassulacean Acid Metabolism)
6. ต้นไผ่บง (Bamboo Palm)
ไผ่บงเป็นต้นไม้ฟอกอากาศในวงศ์ปาล์ม ที่ช่วยดูดสารพิษ เบนซีน และไตรคลอโรเอทิลีน ให้ความรู้สึกเขียวชอุ่ม สดชื่น และเพิ่มความเป็นธรรมชาติให้กับห้อง จึงเหมาะกับห้องรับแขกหรือห้องทำงาน
วิธีดูแล: ต้องการแสงปานกลาง แต่ต้องรดน้ำสม่ำเสมอ
ข้อจำกัด: ไม่ทนต่ออากาศแห้ง ใบจะแห้งกรอบ
7. หมากเหลือง (Golden Pothos)
หมากเหลือง ต้นไม้ฟอกอากาศที่จัดอยู่ในวงศ์ปาล์ม นิยมปลูกเพื่อกรองสารพิษและเพิ่มความชื้นในอากาศ เป็นไม้ที่ปรับตัวได้ง่ายและทำให้ห้องมีความมีชีวิตชีวา จึงนิยมวางไว้ในห้องนั่งเล่นหรือห้องนอนที่มีพื้นที่กว้าง
วิธีดูแล: ต้องการน้ำปานกลางถึงมาก ชอบแดด
ข้อจำกัด: ใบอาจเหลืองง่ายถ้าอากาศแห้งหรือแสงไม่เพียงพอ
8. ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera)
ว่านหางจระเข้อีกหนึ่งต้นไม้ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยความพิเศษที่ช่วยดูดสารพิษฟอร์มาลดีไฮด์และเพิ่มออกซิเจนให้ห้องนอนในเวลากลางคืน เป็นต้นไม้ขนาดเล็กที่สามารถวางบนโต๊ะข้างเตียงหรือวางใกล้หน้าต่างเพื่อรับแสง
วิธีดูแล: รดน้ำน้อย ชอบดินโปร่งระบายน้ำดี
ข้อจำกัด: ถ้าได้รับน้ำมากเกินไปจะเน่าเร็ว
9. มอนสเตอรา (Monstera Deliciosa)
มอนสเตอรา ต้นไม้ฟอกอากาศใบใหญ่ช่วยดูดสารพิษและลดฝุ่น PM2.5 ได้ดี เหมาะที่จะวางไว้ในห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือคอนโด เพราะให้ความรู้สึกเขียวชอุ่ม และสร้างจุดโฟกัสให้ห้องนอน
วิธีดูแล: ต้องการแสง รดน้ำสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง
ข้อจำกัด: ถ้าอยู่ในที่แสงน้อยเกินไป ใบจะไม่แตกเป็นช่อสวยงาม
10. เฟิร์นสิงคโปร์ (Asparagus Fern)
เฟิร์นสิงคโปร์เป็นต้นไม้ฟอกอากาศขนาดเล็กที่มีศักยภาพสูง สามารถดูดสารพิษบางชนิดและช่วยเพิ่มความชื้นได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับห้องนอนและห้องน้ำ โดยสามารถวางบนชั้นหรือห้อยในห้องนอนก็ได้
วิธีดูแล: ต้องการน้ำระดับปานกลาง แต่ควรพรมใบเป็นประจำ
ข้อจำกัด: ใบแห้งกรอบง่ายหากอากาศร้อนจัด
ตัวช่วยฟอกอากาศกับแอร์แคเรียร์
การฟอกอากาศภายในบ้านจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อเลือกใช้ต้นไม้ร่วมกับเครื่องฟอกอากาศ เพราะต้นไม้ช่วยดูดซับสารพิษและเพิ่มความชื้น ในขณะที่เทคโนโลยีฟิลเตอร์ของแอร์ช่วยกำจัดฝุ่น PM2.5 และเชื้อโรคได้อย่างลึกซึ้ง เหมือนกับแอร์ Carrier X-Inverter Plus ที่มาพร้อมฟิลเตอร์อัจฉริยะและระบบฆ่าเชื้อโรค เมื่อทำงานร่วมกับต้นไม้ฟอกอากาศ จะช่วยเพิ่มความสดชื่นและปลอดภัยต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น
สรุปการเลือกต้นไม้ฟอกอากาศ
การเลือกใช้ต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอน ไม่ได้มีแค่เรื่องความสวยงามหรือความสดชื่นเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ในการดูดซับสารพิษ ลดฝุ่นละออง PM2.5 และปรับอากาศให้บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น หากเลือกต้นไม้ที่เหมาะกับสภาพห้องและจัดในตำแหน่งที่ได้รับแสงพอดี ต้นไม้เหล่านี้จะช่วยให้คุณหายใจได้สะดวก และมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว