ชีวิตประจำวันมีแต่ความเร่งรีบ ต้องแข่งกับเวลาอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเดินทาง หรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ไม่เพียงแค่นั้นยังต้องเจอกับสภาพอากาศที่ร้อนแสนจะร้อน เจอกับมลภาวะฝุ่นควัน PM2.5 บ่อยครั้งที่เราอยากรีบกลับให้ถึงบ้าน เพราะจะได้กลับมาพักใจจากปัญหาที่เจอมาตลอดทั้งวัน เพียงแค่ได้นั่งพักหรือนอนพักในห้องที่มีอากาศเย็นสบาย หายใจได้แบบสะดวก สดชื่นทันที แต่ก็ติดปัญหาอยู่ตรงที่กว่าจะถึงบ้าน เปิดแอร์และรอให้แอร์ทำงานจนเย็นฉ่ำ ก็คงใช้เวลาจนน่าหงุดหงิดใจ จะดีกว่าแค่ไหน ถ้าเราสามารถสั่งงานแอร์ให้เปิดรอได้ กลับมาถึงบ้านเมื่อไหร่ก็เย็นฉ่ำ สบายใจได้ทันที แบบไม่ต้องรอ
แคเรียร์เข้าใจถึงการใช้ชีวิตของทุกคนเป็นอย่างดี เราจึงได้พัฒนานวัตกรรมที่จะมาตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ ช่วยให้การสั่งงานแอร์ของคุณเป็นเรื่องง่าย และสบายมากยิ่งขึ้น กับแอปพลิเคชัน Carrier In The Air ที่จะมาเป็นผู้ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน คุณก็สามารถควบคุมแอร์ได้ดั่งใจ สั่งงานง่ายแค่ปลายนิ้วสัมผัส เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Carrier In The Air ลงบนสมาร์ตโฟนและเชื่อมต่อแอร์ผ่านระบบ WiFi คุณก็จะสามารถสั่งงานแอร์ได้ ด้วยฟีเจอร์สุดล้ำอย่าง “Control with Technologies” ที่มีอยู่ในแอร์แคเรียร์ 3 รุ่นท็อป ได้แก่ แคเรียร์ XInverter Plus แคเรียร์ Color Smart และ แคเรียร์ Copper11 ที่พร้อมมายกระดับประสบการณ์สั่งงานแอร์รูปแบบใหม่และพร้อมช่วยให้ทุกการใช้ชีวิตของคุณสะดวกสบายได้อย่างลงตัว
Carrier In The Air ช่วยอะไรบ้าง?
เพราะชีวิตที่เร่งรีบ จนไม่อยากหมดเวลาไปกับการรออะไรนาน ๆ อยากจะกลับมาบ้านแล้วตากแอร์ให้เย็นฉ่ำแบบทันที หรือบางทีก็อยากจะปรับแอร์ในขณะที่กำลังนอนได้ที่โดยไม่ต้องมาตามหารีโมตให้วุ่นวาย ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเพียงแค่ใช้ Carrier In The Air
- หมดกังวลในช่วงเวลาเร่งรีบ ด้วยฟีเจอร์ Control with Technologies ฟีเจอร์สุดล้ำที่นำ
เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมกับการใช้แอร์ เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ของผู้ใช้งาน ผ่านการสั่งการด้วยระบบไวไฟ (WiFi Built-in) โดยแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบปฏิบัติการด้วยกัน
- สั่งการผ่านแอปพลิเคชัน (Application) สามารถควบคุมและสั่งงานแอร์แทนรีโมตได้เลย ไม่ว่าจะเปิด-ปิด ลด-เพิ่มอุณหภูมิ หรือเปลี่ยนโหมดต่าง ๆ ก็ทำได้ทันทีผ่านแอปฯ “Carrier In The Air”
- สั่งการด้วยระบบเสียง (Voice Control) ให้คุณสะดวกมากยิ่งขึ้น กับระบบสั่งการด้วยเสียง เพียงแค่มีตัวกลางการเชื่อมต่ออย่าง Smart Home device หรือ Smartphone เราก็สามารถสั่งการแอร์ผ่านไมโครโฟนนั้นได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาหารีโมตแอร์หรือเปิดเข้าแอปพลิเคชันให้วุ่นวายเป็นอะไรที่สะดวกมาก ๆ
- ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ โดยคุณสามารถตรวจเช็กและคำนวณค่าไฟแอร์บ้านได้ตลอดเวลา ด้วย Realtime Power Consumption Check ระบบการคำนวณค่าไฟแบบอัตโนมัติ เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันที่เราสามารถใช้ผ่านแอปพลิเคชัน “Carrier In The Air” เพื่อตรวจสอบการใช้พลังงานไฟฟ้าของแอร์แต่ละเครื่องและคำนวณค่าไฟฟ้าออกมาเป็นหน่วยเงินได้ทันที ทั้งยังสามารถเรียกดูค่าไฟโดยรวมได้ตลอดทั้งปี โดยแอปฯ สามารถแสดงผลเป็นรายเดือน วัน หรือชั่วโมง ช่วยให้คุณสามารถคำนวณเพื่อวางแผนค่าไฟของแอร์ต่อเดือนได้ทันที จะเปิดแอร์หนักแค่ไหนก็ยังวางแผนค่าไฟได้ หมดห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายจากการเปิดแอร์
เริ่มต้นใช้งาน Carrier In The Air อย่างไร ?
วิธีการใช้งานก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่มีสมาร์ตโฟนและแอร์แคเรียร์ XInverter Plus, Color Smart หรือ Copper11 ที่สามารถเชื่อมต่อ WiFi ได้ เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Carrier In The Air จาก Apple Store หรือ Google Playstore จากนั้นลงทะเบียนเพื่อเข้าใช้งานตามวิธีดังนี้
1. เข้าสู่แอปพลิเคชัน แล้วกด Register
2. กรอก EMail 2 ครั้งเพื่อยืนยันตัวตน
3. เลือกประเทศที่ใช้งาน
4. สร้าง Username และ Password
5. อ่านเงื่อนไขและรายละเอียดต่าง ๆ แล้วกด Agree
6. ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด แล้วกด Submit จากนั้นเข้าไปใน EMail แล้วกด Verify
7. เข้าสู่แอปพลิเคชันอีกครั้ง แล้วกด Log In
8. จากนั้นกรอก Username และ Password ที่ตั้งไว้เพื่อเริ่มต้นใช้งาน
9. จากนั้นกด Icon สีฟ้าที่แสดงบนหน้าแอปฯ เพื่อเริ่มต้นเชื่อมต่อกับแอร์
10. อ่านรายละเอียดต่าง ๆ แล้วกด Next
11. กดเลือก Wireless Adapter Buit-in จากนั้นอ่านรายละเอียดที่แสดงบนแอปฯ กด
12. จากนั้นเลือกเครือข่ายของ WiFi ตามที่ต้องการ
13. จากนั้นใส่ SSID และ Password รอเชื่อมต่อประมาณ 1 นาทีแล้วเริ่มต้นใช้งาน หรือสามารถดูรายละเอียดได้ที่ Link https://bit.ly/3HWhVkj
ควบคุมแอร์ผ่าน Carrier In The Air ได้อย่างไร ?
หลังจากดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน Carrier In The Air บนสมาร์ตโฟนของคุณเสร็จแล้ว ก็สามารถใช้งานหรือควบคุมแอร์ของคุณผ่านมือถือได้เลย เข้าเปิดเข้าใช้งานตัวแอปฯ จะแยกแอร์แต่ละเครื่องเอาไว้ ทั้งนี้คุณยังสามารถแบ่งกรุ๊ปของแอร์เองได้ เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมและสั่งงาน เช่น แยกแอร์ออกเป็นชั้น หรือโซนของบริเวณบ้าน กำหนดจำนวนเครื่อง แล้วแบ่งให้มาอยู่ในกรุ๊ปเดียว เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุม จากนั้นเลือกแอร์เครื่องที่ต้องการเปิดใช้งานและทำงานสั่งการตามฟังก์ชันต่าง ๆ ของคุณเองได้เลย ไม่ว่าจะเปิด-ปิด ปรับอุณหภูมิ หรือเปลี่ยนโหมดการทำงาน ก็สามารถทำได้ทั้งระยะใกล้และระยะไกล จะอยู่ที่ไหนก็ควบคุมได้ทันที และหากต้องการเช็กพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ไปของแอร์ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพียงเลือกโหมด Energy Monitoring กับแอร์เครื่องที่ใช้งานขณะนั้น โดยสามารถเลือกช่วงเวลาที่ต้องการดูแบบเฉพาะเจาะจงได้เลย หรือสามารถดูรายละเอียดได้ที่ Link
ชวนรู้ Application ‘Carrier In The Air’
- เครื่องปรับอากาศ 1 เครื่อง ควบคุมได้ถึง 5 คน
เครื่องปรับอากาศแคเรียร์ 1 เครื่อง สามารถควบคุมการทำงานได้ถึง 5 คน โดยสมาชิกแต่ละคนสามารถสมัครบัญชีการใช้งานแอปพลิเคชันในชื่อที่แตกต่างกันได้แต่ต้องใช้ Email Address เดียวกัน ในการลงสมัครบัญชี ก็จะสามารถควบคุมเครื่องปรับอากาศเครื่องเดียวกันได้ ซึ่งในกรณีที่มีการสั่งงานร่วมกัน เครื่องปรับอากาศจะทำตามคำสั่งทุกคำสั่ง แต่สถานะเครื่องจะอยู่ตามคำสั่งคนสุดท้ายที่สั่งงาน
- 1 บัญชีควบคุมเครื่องปรับอากาศได้มากถึง 10 เครื่อง
หากมีเครื่องปรับอากาศในบ้านมากกว่า 1 เครื่อง ทั้งรุ่น Color Smart , X-Inverter Plus , Copper11 ก็สามารถควบคุมในแอปพลิเคชันด้วย 1 บัญชีการใช้งานได้เลย และยังสามารถควบคุมการทำงานเครื่องปรับอากาศได้ถึง 10 เครื่องต่อ 1 บัญชีการใช้งาน
- จัด Group เครื่องปรับอากาศให้ง่ายต่อการสั่งงาน
หากในบ้านมีเครื่องปรับอากาศแคเรียร์ที่รองรับการเชื่อมต่อ WIFI มากกว่า 1 เครื่อง เพื่อให้ง่ายต่อการสั่งงานแอปพลิเคชัน สามารถที่จะจัดโซนเพื่อควบคุมเป็นกลุ่มโซนสูงสุดได้ถึง 3 โซน เช่น กรณีที่บ้านเป็นบ้าน 3 ชั้นสามารถจัดเป็น 3 โซน โซนห้องนั่งเล่น โซนห้องนอน โซนห้องรับประทานอาหาร ข้อดีเพิ่มเติมจากการจัดกลุ่มโซน หากใน 1 โซนมีเครื่องปรับอากาศ 3 เครื่อง เพียงแค่กดปุ่ม เปิด หรือปิดในรูปแบบโซน เครื่องปรับอากาศทั้ง 3 เครื่องในโซนนั้นก็จะเปิดหรือปิดพร้อมกันทั้งโซนทันที
ไม่ว่าชีวิตจะเร่งรีบแค่ไหน ไลฟ์สไตล์แบบใด Carrier In The Air ก็พร้อมเป็นผู้ช่วยอำนวยความสะดวกของคุณ ทำให้ทุกการสั่งงานแอร์เป็นเรื่องง่าย ๆ จะอยู่ที่ไหน เมื่อไหร่ ก็ควบคุมได้ดั่งใจ สะดวกสบายเพียงปลายนิ้วสัมผัส