ใครที่มีห้องขนาดเล็กก็อาจจะมองหาแอร์ขนาด 9,000 BTU เอาไว้ เพราะน่าจะเหมาะกับขนาดห้องมากที่สุด แต่ก็อาจจะมีข้อสงสัยตามมาว่า แอร์ 9,000 BTU กินไฟกี่วัตต์ คิดเป็นค่าไฟเท่าไหร่ วันนี้แคเรียร์จะพาทุกคนไปหาคำตอบกัน นอกจากนี้ยังมีวิธีการใช้แอร์ให้ได้เต็มประสิทธิภาพ และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในบ้านไปในตัว พร้อมแล้วไปดูกัน
วิธีคำนวณแอร์บ้าน กินไฟกี่วัตต์
เริ่มจากการนับวัตต์กันก่อน โดยวัตต์คือหน่วยวัดกำลังไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านนั่นเอง ซึ่งตามปกติแอร์บ้านระบบอินเวอร์เตอร์จะกินไฟประมาณ 210 – 3,000 วัตต์ ขึ้นอยู่กับขนาดของแอร์
𝐼(𝐴𝑚𝑝𝑒𝑟𝑒 − 𝐴) = P (W-Watt/V-Volt)
𝑃(𝑊𝑎𝑡𝑡 − 𝑊) = 𝐼(𝐴𝑚𝑝𝑒𝑟𝑒 − 𝐴) × 𝑉(𝑉𝑜𝑙𝑡 − 𝑉)
• I = กระแสไฟฟ้า มีหน่วยเป็น แอมแปร์ (Ampere – A)
• P = กําลังไฟฟ้า มีหน่วยเป็น วัตต์ (Watt – W) (ดูได้จากฉลากหลังเครื่อง)
• V = แรงดันไฟฟ้า (Thailand = 220V)
** 1 KW(กิโลวัตต์) = 1,000 W(วัตต์) = 1 หน่วย **
ยกตัวอย่างเช่น Copper 11 ปี 2025
แอร์ 9,000 BTU รุ่น Inverter จะใช้กำลังไฟประมาณ 210-1,000 วัตต์ต่อชั่วโมง
แอร์ 12,000 BTU รุ่น Inverter จะใช้กำลังไฟประมาณ 270-1,300 วัตต์ต่อชั่วโมง
แอร์ 15,000 BTU รุ่น Inverter จะใช้กำลังไฟประมาณ 350-1,720 วัตต์ต่อชั่วโมง
แอร์ 18,000 BTU รุ่น Inverter จะใช้กำลังไฟประมาณ 340-1,900 วัตต์ต่อชั่วโมง
แอร์ 20,400 BTU รุ่น Inverter จะใช้กำลังไฟประมาณ 350-2,100 วัตต์ต่อชั่วโมง
วิธีคำนวณค่าไฟโดยจะยกตัวอย่างการคำนวณแบบรายปีและรายวันเพื่อช่วยให้เห็นภาพค่าใช้จ่ายในแต่ละวันและแต่ละเดือนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ตัวอย่างการคิดค่าไฟรายปีจะยกตัวอย่างแอร์รุ่น Copper 11 ขนาด 9,200 BTU ต่อชั่วโมง
โดยใช้ข้อมูลในการคํานวนค่าไฟต่อปีจากฉลากเบอร์ 5

ค่าไฟต่อปี = (ค่า BTU / ค่า SEER) / 1,000 x ชั่วโมงใช้งาน x ค่าไฟต่อหน่วย
(9,200 / 18) / 1,000 x 2,920 ชั่วโมง x 5 บาท = 7,462 บาท ต่อปี
หากเปิดแอร์ 9 ชั่วโมงต่อวัน
(9,200 / 18) / 1,000 x 9 ชั่วโมง x 5 บาท = 23 บาท ต่อวัน
หมายเหตุ:
กรณีคำนวณเรท
- ขนาด BTU: ดูที่ฉลาก
- ค่า SEER: ดูที่ฉลาก
- ชั่วโมงใช้งาน: การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กำหนดมาตรฐานไว้ที่ 8 ชั่วโมงต่อวัน (2,920 ชั่วโมงต่อปี)
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการใช้พลังงานไฟฟ้าของแอร์
| ปัจจัย | บนฉลากเบอร์ 5 | การใช้งานจริง | ผลลัพธ์ |
| ชั่วโมงทำงาน | 8 ชั่วโมงต่อวัน (2,920 ชั่วโมงต่อปี) | เปิดจริง 10-12 ชั่วโมง | กินไฟเพิ่ม 25-50% |
| อุณหภูมิที่ตั้ง | ทดสอบที่ 27°C (ISO Cooling Season) | ตั้งจริง 23-25°C | ลด 1°C กินไฟเพิ่มประมาณ 10% |
| สภาพห้อง | ห้องทดสอบปิดสนิท ไม่มีโหลดความร้อนแฝง | ห้องจริงมีแดดส่อง, ประตูเปิดออก, คนอยู่เยอะ | คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักกว่าเดิม |
| ความสะอาด | แอร์ใหม่ คอยล์สะอาด 100% | แอร์อาจมีฝุ่นเกาะ ไม่ได้ล้างในระยะเวลา 6 เดือน | ลมไม่ออก ประสิทธิภาพตก |
| สภาวะอากาศ | สภาวะคงที่ อุณหภูมิภายในห้อง 27°C อุณหภูมิภายนอก 35°C | ไม่คงที่ขึ้นอยู่กับฤดูกาล | – |
แอร์ 9,000 BTU กินไฟกี่วัตต์
สำหรับคนที่มองว่าแอร์ 9,000 BTU กินไฟกี่วัตต์ เราจะนำเอาสูตรคำนวณจาก W/V = A มาหารกัน
สมมติว่าแอร์ 9,000 BTU แบบ Inverter จะใช้กำลังไฟประมาณ 350 วัตต์ต่อชั่วโมง
วิธีช่วยประหยัดค่าไฟ สำหรับแอร์ 9,000 BTU
มาดูเรื่องทริคการประหยัดไฟกันบ้าง สำหรับคนที่ใช้แอร์ 9,000 BTU โดยเราสามารถนำเอาไอเดียเหล่านี้ไปใช้ได้เลย
1. ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับห้อง
หนึ่งในวิธีประหยัดไฟได้ดีสำหรับการใช้แอร์ก็คือ การเลือกปรับอุณหภูมิห้องไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป เพราะจะทำให้แอร์ทำงานหนักโดยไม่จำเป็น และกินไฟมากกว่าปกติ
2. มีการตรวจสภาพอยู่เสมอ
เป็นตามปกติที่ทุกคนจะต้องล้างแอร์ทุก ๆ 6 เดือน เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกออกไปจากแอร์ รวมถึงทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศไม่ให้อุดตัน ที่นอกจากจะช่วยยืดอายุการใช้งานแล้ว ยังทำให้ได้อากาศที่สะอาดอีกด้วย
3. ปิดแอร์ก่อนออกจากห้อง 1 ชั่วโมง
เมื่อแอร์ทำความเย็นและควบคุมอุณหภูมิในห้องได้คงที่แล้ว ก่อนที่เราจะออกจากบ้านหรือห้องไป สามารถปิดแอร์ได้ก่อน 1 ชั่วโมง โดยที่อากาศในห้องจะยังคงเย็นอยู่ได้สบาย ๆ พร้อมกับช่วยลดการใช้พลังงานไปในตัว
4. เปิดห้องระบายอากาศก่อนเปิดแอร์
แอร์ 9,000 BTU มักจะใช้กำลังไฟน้อยและเหมาะกับห้องขนาดเล็ก ซึ่งการเปิดห้องระบายอากาศในห้องที่อบอ้าวออกไปก่อน จะช่วยให้แอร์ทำงานได้ดีขึ้น พร้อมกับได้อุณหภูมิที่ต้องการได้เร็วขึ้น
5. ใช้แอร์ 9,000 BTU ให้เหมาะกับขนาดห้อง
แม้ว่าแอร์ 9,000 BTU จะมีราคาไม่แพงนัก แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ การเลือกติดแอร์ในห้องขนาด 9 – 15 ตร.ม. และมีเพดานสูง 2.5 เมตร ถึงจะเหมาะกับการทำงานของแอร์ที่ไม่หนักเกินไป
6. ติดคอมเพรสเซอร์ตรงจุดที่เหมาะสม
แม้ว่าจะเป็นส่วนประกอบที่อยู่นอกบ้าน แต่คอมเพรสเซอร์ไม่ควรถูกแดดหรือฝนโดยตรง ให้เลือกติดตั้งจุดที่มีร่มเงา มีอากาศถ่ายเทตลอดเวลา ก็จะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานไม่หนักและเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
7. ถ้าต้องติดแอร์ใหม่ เลือก Inverter เพื่อประหยัด
ในยุคปัจจุบันที่มีแอร์ Inverter ก็จะช่วยคุมอุณหภูมิในบ้านได้ดีและยังลดการใช้ค่าไฟไปในตัว ขอแนะนำแอร์แคเรียร์ Copper 11 ที่มีทั้งการคำนวณค่าไฟผ่านแอปพลิเคชันแบบ Real-Time ไปจนถึงการสั่งงานแบบสมาร์ทที่ทำให้เราสามารถเปิดปิดแอร์ หรือคุมอุณหภูมิในห้องได้ตรงกับกิจกรรมในบ้านมากที่สุด
บทสรุปแอร์ 9,000 BTU กินไฟกี่วัตต์
เท่านี้ทุกคนก็น่าจะรู้วิธีคำนวณแอร์ 9,000 BTU กินไฟกี่วัตต์ ซึ่งน่าจะช่วยให้ทุกคนรู้ว่าแอร์ขนาดเล็กใช้ไฟไปเท่าไหร่ เหมาะกับห้องแบบไหน รวมถึงทริคประหยัดค่าไฟสำหรับแอร์ขนาดนี้ หากใครที่กำลังจะติดแอร์ใหม่ก็อย่าลืมเลือกแอร์แคเรียร์ที่สามารถใช้ทั้งแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟน รวมถึงระบบเช็คค่าไฟที่เพิ่มความสะดวกให้กับเจ้าของบ้านมากขึ้น



