ต้องบอกว่า กระแสของบ้านนอร์ดิกมาแรงมาก ๆ และหลายคนอาจเริ่มหาไอเดียสำหรับการแต่งบ้านสไตล์ยุโรปแบบนี้กันแล้ว แต่ก่อนที่จะไปเริ่มทำโปรเจคต์ใหญ่กัน มีอะไรบ้างที่เราควรรู้ไว้เกี่ยวกับบ้านนอร์ดิก ไปจนถึงไอเดียใหม่ ๆ ที่อาจช่วยทำให้บ้านของเราสวยมากกว่าเดิมจากแคเรียร์อีกด้วย ความเรียบง่ายสไตล์มินิมอลแบบนี้มันมีที่มาจากไหน วันนี้เราจะไปเจาะลึกบ้านทรงนี้กัน
รู้จักบ้านนอร์ดิก คืออะไร ดีไซน์เรียบง่าย เน้นใช้งาน
หากพูดถึงที่มาของบ้านนอร์ดิกก็ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ ทศวรรษที่ 1950 เลยทีเดียว หรือเป็นเวลามากกว่า 70 ปีมาแล้วที่บ้านสไตล์นอร์ดิกมีที่มาจากช่วงฤดูหนาวที่ยาวนานของประเทศแถบสแกนดิเนเวียน ซึ่งมีประเทศอย่างเดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน โดยสิ่งสำคัญของบ้านประเภทนี้คือความเรียบง่ายและการใช้งานได้จริง แถมเข้ากับสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติอีกด้วย ส่วนลักษณะจะเป็นเหมือนกับโรงนายุโรป รวมถึงมีกระจกบานใหญ่คอยรับแสงตลอดเวลา ด้วยเหตุผลนี้เองเลยทำให้บ้านทรงนี้ดูอบอุ่นและสบายตามาก รวมถึงการใช้สีไม้โทนธรรมชาติยิ่งเพิ่มเสน่ห์มากขึ้นเช่นกัน
ข้อดีของบ้านนอร์ดิก
1. เน้นความเป็นธรรมชาติ
ต้องบอกก่อนว่า ตามปกติประเทศจากฝั่งสแกนดิเนเวียนจะเน้นอยู่กับธรรมชาติเป็นหลัก จึงทำให้โทนสีของบ้านมีความเป็นธรรมชาติมากกว่าทรงโมเดิร์นทั่วไป
2. บ้านมีความโปร่งสบาย
เนื่องจากบ้านนอร์ดิกจะสร้างเป็นจั่วทรงสูง ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างเยอะและมักจะทำห้องใต้หลังคาเอาไว้เป็นห้องนอนได้อย่างไม่มีปัญหา นอกจากนี้ใครที่ชอบแสงธรรมชาติก็ไม่ต้องห่วง เพราะบ้านสไตล์นี้ยังมีกระจกบานใหญ่เอาไว้รับแสงสว่างและทำให้บ้านดูอบอุ่นมากขึ้นอีกด้วย
3 น้ำรั่วซึมได้ยาก
ที่จริงแล้วก็เหมือนกับบ้านของไทยสมัยก่อนที่มักจะนิยมทำเป็นหน้าจั่วเดียว เพราะสามารถป้องกันไม่ให้เกิดน้ำฝนรั่วเข้าตัวบ้านนั่นเอง ซึ่งฟังก์ชันนี้ก็สามารถใช้ได้กับบ้านสไตล์ยุโรปแบบนี้เช่นกัน
ข้อควรระวังที่ต้องรู้ของบ้านนอร์ดิก
1. ระวังเรื่องความร้อน
เนื่องจากประเทศไทยมีอากาศร้อนทำให้บ้านที่ไม่มีชายคาอาจจะต้องเจอกับแดดแรงช่วงตอนกลางวัน ซึ่งจะทำให้ผนังบ้านสีจางเร็วกว่าสไตล์อื่น โดยอาจจะต้องใช้สีทาบ้านที่ทนแดดได้ดีมาทาเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจตามมาได้ นอกจากนี้กระจกบานใหญ่ของบ้านยังทำให้แสงแดดส่องเข้ามามากเกินไปจนทำให้อุณหภูมิในบ้านสูงขึ้นได้เช่นกัน อาจต้องหาวิธีแก้ไขด้วยการใช้แอร์แคเรียร์ Inverter อย่างในรุ่น XInverter Plus ที่ช่วยคุมอุณหภูมิห้องให้สม่ำเสมอมากขึ้น ตั้งค่าง่ายผ่านแอพพลิเคชัน Carrier In The Air แถมช่วยประหยัดค่าไฟอีกด้วย
2. ระวังเรื่องฝน
อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญของการสร้างบ้านนอร์ดิกในประเทศไทยก็คือ ฝน เนื่องจากบ้านไม่ได้มีชายคายื่นออกมาก็ทำให้ผนังด้านนอกโดนฝนได้ง่ายและอาจทำให้เกิดปัญหาเรื่องเชื้อรา หรือสีลอกได้เลยทีเดียว ซึ่งต้องใช้สีทาบ้านที่กันน้ำเพื่อป้องกันปัญหาเอาไว้ก่อน
3. ความเป็นส่วนตัวลดลง
บ้านที่มีกระจกใหญ่จะเจอกับปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวตามมา แม้ว่ากระจกจะเพิ่มความโปร่งสบายและแสงสว่างให้กับบ้าน แต่ก็ต้องแลกกับความเป็นส่วนตัว ที่อาจมีคนนอกมองเข้ามาได้เช่นกัน อาจต้องใช้ม่านหรือติดฟิล์มเพื่อความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น
แคเรียร์แชร์ไอเดียบ้านนอร์ดิก
1. บ้านเน้นกระจกเพื่อแสงธรรมชาติ
เพราะแสงธรรมชาติเป็นเสน่ห์ของบ้านนอร์ดิก จึงทำให้การดีไซน์ที่เน้นการใช้กระจกบานใหญ่ก็จะยกระดับบ้านให้ดูหรูมากขึ้น ไปจนถึงยังเพิ่มความกว้างสบายตาได้ดี รวมถึงอาจสร้างความอบอุ่นให้กับบ้านไปในตัว
2. ทาบ้านสีขาวล้วน
แม้ว่าบ้านสไตล์นี้จะไม่ได้เน้นการทาสีที่ไม่ใช่สีธรรมชาติก็ตาม แต่การใช้สีขาวก็ทำให้บ้านดูสะอาดตา มีความมินิมอล และยังเน้นความเรียบง่ายตามสไตล์เหมือนเดิม โดยปัจจุบันการทาบ้านเป็นสีขาวก็เป็นที่นิยมและการทาสีเดียวทั้งหลังไปเลยก็เพิ่มความสวยงามได้ไม่น้อย
3. ใช้ทรงเรขาคณิตเพื่อความโมเดิร์น
หลายคนอาจกังวลเรื่องพื้นที่ในบ้านและการจัดให้เป็นสัดส่วน แต่การทำบ้านสไตล์โมเดิร์นหรือใช้รูปทรงเรขาคณิตที่เน้นประโยชน์ใช้สอย ซึ่งยังคงเน้นความเรียบง่าย แต่ช่วยคนที่อยู่ด้านในได้ดี
4. เพิ่มสไตล์ญี่ปุ่นด้วยระแนงไม้
แน่นอนว่า ต่อให้เป็นบ้านสไตล์ยุโรป แต่ก็ยังมีวิธีนำเอาไอเดียจากประเทศญี่ปุ่นมาช่วยได้ โดยเฉพาะคนที่ไม่อยากให้บ้านรับแสงมากไป หรือกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว ก็ยังสามารถแต่งหน้าบ้านเป็นระแนงไม้เพื่อกันแดดได้
5. บ้านนอร์ดิกชั้นครึ่ง
ใครที่อยากได้พื้นที่ในบ้านมากขึ้น การทำบ้านเป็นชั้นครึ่ง โดยเอาพื้นที่ที่เหลือด้านบนมาทำเป็นห้องนอน หรือห้องเก็บของเพื่อให้พื้นที่ด้านล่างมากขึ้น หรือจะเปลี่ยนชั้นบนเป็นห้องนอนเพื่อความเป็นสัดเป็นส่วนก็ยังได้เช่นกัน
สรุปบ้านสไตล์นอร์ดิก
เท่านี้ก็น่าจะรู้แล้วว่า บ้านนอร์ดิกมีลูกเล่นไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ และประโยชน์ใช้สอยต่าง ๆ นอกจากนี้ยังสามารถออกแบบให้เข้ากับสภาพอากาศของประเทศไทยได้อีกด้วย แม้ว่าจะมีข้อพิจารณาก่อนสร้างและการออกแบบเพื่อรับมือกับอากาศร้อน ดังนั้น การเลือกทิศทางของบ้านและการใช้แอร์สำคัญกับบ้านนอร์ดิกอีกด้วย ที่เหลือก็แค่ไปหาสไตล์ของตัวเองสำหรับบ้านในฝันกัน