เคยไหมที่ตอนอากาศร้อนจัดอยากเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำ แต่พอกดรีโมทเท่าไรก็ไม่ติด หรือบางครั้งกว่าจะตอบสนองก็ต้องกดแรง ๆ หลายรอบจนเริ่มหงุดหงิด อาการแบบนี้คือหนึ่งในปัญหายอดฮิตของทุกบ้าน โดยเฉพาะเมื่อใช้แอร์มานานหลายปี ซึ่งหลายคนคงสงสัยว่าปัญหารีโมทแอร์กดไม่ค่อยติดเกิดจากอะไรแน่ จะเป็นเพราะถ่านหมด รีโมทพัง หรือเป็นที่ตัวเครื่องแอร์กันแน่ วันนี้เรามาไขคำตอบ พร้อมแนะนำวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำได้เองก่อนเรียกช่างค่ะ
รีโมทแอร์กดไม่ค่อยติดเกิดจากอะไร
ปัญหารีโมทแอร์กดไม่ค่อยติดเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากตัวรีโมทเองและจากระบบรับสัญญาณของแอร์ และนี่อาจเป็นต้นตอของปัญหานี้ค่ะ
- แบตเตอรี่ใกล้หมดหรือถ่านเสื่อมสภาพ
สาเหตุอันดับหนึ่งที่เชื่อว่าหลายคนจะนึกถึง ถ่านที่ใกล้หมดจะทำให้แรงดันไฟไม่พอที่จะส่งสัญญาณอินฟราเรดจากรีโมทไปถึงตัวรับสัญญาณของแอร์
- ขั้วถ่านสกปรกหรือมีคราบออกไซด์
เมื่อเราใช้รีโมทไปนาน ๆ คราบความชื้นอาจทำให้ขั้วถ่านเกิดสนิมหรือออกไซด์ขึ้นได้ ทำให้กระแสไฟไหลได้ไม่ดีเท่าที่ควร ส่งผลให้กดแล้วแอร์ไม่ตอบสนองนั่นเอง
- แผงวงจรรีโมทชำรุดภายใน
บางครั้งปัญหาเกิดจากภายในรีโมทเอง โดยเฉพาะถ้าเคยตกพื้นแรง ๆ ก็อาจทำให้แผงวงจรชำรุด หลุดหลวม หรือปุ่มยางภายในสึกหรอ ทำให้ปุ่มไม่สัมผัสกับบอร์ดวงจรได้ หรือแม้แต่การที่รีโมทเคยโดนน้ำหรือมีคราบฝุ่นเกาะภายในวงจรก็อาจส่งผลต่อการส่งสัญญาณเช่นกัน
- เซ็นเซอร์รับสัญญาณที่ตัวแอร์สกปรกหรือบังด้วยสิ่งของ
รีโมทแอร์ส่วนใหญ่ใช้ระบบส่งสัญญาณอินฟราเรด ซึ่งต้องมองเห็นกันระหว่างรีโมทกับตัวแอร์ หากมีสิ่งของบัง เช่น ผ้าม่าน กรอบรูป หรือฝุ่นเกาะหนาที่บริเวณเซ็นเซอร์ก็ส่งผลต่อการรับสัญญาณได้
- ระยะส่งสัญญาณไกลเกินไปหรือมุมไม่ตรง
รีโมทแอร์ส่วนใหญ่ส่งสัญญาณได้ในระยะประมาณ 5 – 7 เมตร และต้องเล็งตรง ๆ ไปที่แผงรับสัญญาณ ถ้ายืนไกลหรืออยู่ในมุมเฉียงมากเกินไปสัญญาณก็อาจจะไปไม่ถึง
- ตัวรับสัญญาณที่เครื่องแอร์มีปัญหา
ในบางกรณีรีโมทอาจปกติดี แต่ตัวรับสัญญาณ (IR Receiver) ที่อยู่บนเครื่องแอร์เสียหรือหลวม จึงไม่สามารถรับสัญญาณจากรีโมทได้
วิธีแก้ปัญหารีโมทแอร์ กดไม่ค่อยติด
ยังไม่ต้องรีบเรียกช่างมาเพียงเพราะว่ารีโมทแอร์มีปัญหานะคะ ลองตรวจเช็กตามขั้นตอนเหล่านี้ก่อนเพราะหลายครั้งที่เราสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ค่ะ
- เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ทั้ง 2 ก้อน
ถึงแม้ยังพอมีไฟอยู่แต่แบตที่อ่อนแรงจะทำให้สัญญาณส่งได้ไม่สม่ำเสมอ เปลี่ยนใหม่ยกคู่และตรวจสอบให้แน่ใจว่าใส่ขั้ว + และ – ถูกต้องแล้ว
- ทำความสะอาดขั้วแบตด้วยสำลีก้านชุบน้ำส้มสายชูหรือแอลกอฮอล์
หากเห็นคราบขาวหรือคราบเขียวตามขั้ว ให้เช็ดออกเบา ๆ แล้วปล่อยให้แห้งสนิทก่อนใส่ถ่านใหม่
- เช็ดหัวส่งสัญญาณรีโมทด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์
ใช้ผ้าสะอาดเช็ดบริเวณหัวพลาสติกใสด้านบนของรีโมท เพราะฝุ่นเพียงเล็กน้อยก็สามารถลดความแรงของสัญญาณได้
- ลองทดสอบรีโมทกับกล้องมือถือ
เปิดกล้องโทรศัพท์มือถือและจ่อที่บริเวณเซนเซอร์ของรีโมท จากนั้นลองกดปุ่มบนรีโมท หากยังเห็นแสงสีม่วง-แดงออกจากหัวรีโมทอยู่ แปลว่าตัวส่งสัญญาณยังทำงานปกติ แต่ถ้าไม่เห็นแสดงว่าตัวรีโมทอาจมีปัญหาจริง ๆ
- หลีกเลี่ยงการยิงรีโมทผ่านสิ่งของหรือผ้าม่าน
พยายามยืนตรงหน้าตัวเครื่องและกดยิงรีโมทโดยตรง หากอยู่ไกลมากกว่า 5 – 7 เมตรควรขยับเข้ามาใกล้ขึ้น
- หากตกน้ำหรือตกพื้นแรง ให้เปิดฝาออกและผึ่งให้แห้งสนิท
ไม่ควรใช้ไดร์เป่า เพราะอาจทำให้แผงวงจรละลาย ควรใช้พัดลมหรือซองดูดความชื้นแทน
- กรณีรีโมทเสียจริง อาจหาซื้อรีโมทแอร์อเนกประสงค์ (Universal Remote)
ปัจจุบันมีรีโมทแอร์แบบปรับโค้ดได้หลายยี่ห้อ ใช้ได้กับแอร์ส่วนใหญ่ในท้องตลาด เหมาะสำหรับใช้ชั่วคราวหรือเป็นตัวสำรอง
- ใช้แอร์ที่มีฟังก์ชันสั่งการผ่านแอพพลิเคชัน
ถือเป็นการแก้ปัญหาในตัว หากแอร์ของเรามีแอปพลิเคชันที่สามารถสั่งการผ่านมือถือได้เลย อย่างเช่น แอร์แคเรียร์รุ่น XInverter Plus หรือ Copper 11 ที่สามารถใช้แอป Carrier In the Air ที่ใช้งานสะดวก ปรับตั้งค่าจากระยะไกลได้ และไม่ต้องกังวลเรื่องรีโมทอีกต่อไป
บทสรุปปัญหารีโมทแอร์กดไม่ค่อยติด
อาการรีโมทแอร์กดไม่ค่อยติดไม่ได้หมายความว่าแอร์เสียเสมอไป ส่วนใหญ่เป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ อย่างแบตเตอรี่ใกล้หมด ฝุ่นเกาะที่หัวส่งสัญญาณ หรืออยู่ไกลเกินระยะยิง ซึ่งสามารถแก้ได้เองง่าย ๆ ภายในไม่กี่นาที แต่หากทดลองทุกวิธีแล้วยังไม่ดีขึ้น อาจเป็นไปได้ว่าตัวรีโมทหรือบอร์ดรับสัญญาณของแอร์เริ่มมีปัญหา ควรติดต่อศูนย์บริการของเครื่องปรับอากาศนั้น ๆ เช่น Carrier เพื่อให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบโดยตรง
การดูแลรีโมทแอร์ เช่น เช็ดทำความสะอาดเป็นประจำ ไม่วางไว้ในที่ร้อนจัด และเปลี่ยนแบตทุก 6 เดือน จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานและทำให้ทุกครั้งที่คุณกดปุ่มเปิด แอร์ก็เย็นฉ่ำทันใจโดยไม่ต้องกดซ้ำอีกต่อไป



