ติดต่อเรา

BTU แอร์ เรื่องแรกที่ต้องรู้ก่อนซื้อแอร์

BTU แอร์

ใครที่กำลังเลือกเครื่องปรับอากาศเครื่องใหม่อยู่ต้องฟังทางนี้! นอกจากจะต้องเลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ ประเภท รุ่นของแอร์ กับดีไซน์ที่ชอบแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่สำคัญมาก ๆ ของการเลือกเครื่องปรับอากาศเลยก็คือ BTU แอร์ ที่ถือเป็นเรื่องแรก ๆ ที่ทุกคนต้องทำความเข้าใจ เพื่อให้ได้แอร์ที่เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด

ทำความรู้จักกับ BTU 

BTU หรือชื่อเต็มว่า British Thermal Unit เป็นหน่วยวัดค่าพลังงานความร้อนตามมาตรฐานสากล เมื่อนำมาใช้ในส่วนของเครื่องปรับอากาศ จะมีหมายถึงความสามารถในการทำความเย็น ถ่ายเทความร้อนออกจากห้องภายในเวลา 1 ชั่วโมง โดยคำนวณเป็น ความร้อน 1 BTU เท่ากับ ปริมาณความร้อนที่ทำให้น้ำ 1 ปอนด์ มีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นหรือลดลง 1 องศาฟาเรนไฮต์ ยิ่งตัวเลข BTU เยอะก็แสดงว่าแอร์เครื่องนั้นทำความเย็นได้มาก 

ดังนั้นการเลือกขนาด BTU ของแอร์ในแต่ละครั้งที่ซื้อ ต้องเลือกแอร์ที่มีขนาด BTU เหมาะสมกับห้องที่จะติดตั้ง เพื่อที่จะคุ้มค่ากับพลังงานและการใช้งานมากที่สุด หากใช้แอร์ที่มี BTU มากกว่าขนาดห้อง ก็จะเป็นการซื้อแอร์ในราคาที่เกินความจำเป็นและเปลืองไฟโดยเปล่าประโยชน์ แต่หากใช้ BTU ที่น้อยกว่าขนาดห้อง ก็จะทำให้ใช้เวลานานกว่าปกติในการกระจายความเย็น และแอร์ต้องทำงานหนักกว่าเดิมอยู่ตลอดเวลา

อย่างเช่น แอร์ที่มีขนาด 9,000 BTU เท่ากับว่าแอร์เครื่องนั้นสามารถถ่ายเทความร้อนออกจากห้องปรับอากาศได้ 9,000 BTU ภายในเวลา 1 ชั่วโมง ดังนั้นก่อนจะซื้อแอร์ทุกครั้ง จึงต้องทราบก่อนว่าห้องนั้นๆ ต้องการใช้แอร์ขนาด BTU เท่าไหร่

วิธีเลือก BTU แอร์ให้เหมาะกับห้อง

การเลือก BTU แอร์ให้เหมาะกับห้องควรพิจารณาจากประเภทห้อง ขนาดห้อง ตำแหน่งทิศทางของห้อง การเข้าถึงของแสงแดด จำนวนผู้พักอาศัย จำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องมีมากน้อยเพียงใดภายในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งโดยปกติแล้ว เครื่องปรับอากาศแคเรียร์จะมีหลายขนาดตั้งแต่ 9,000 BTU – 36,000 BTU ซึ่งแต่ละขนาด เหมาะสมกับพื้นที่ใช้สอยที่ต่างกันไป อาทิ

ขนาด 9,000 BTU – 21,000 BTU เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดเล็กถึงปานกลาง เช่น คอนโด หรือห้องที่มีความร้อนปานกลางถึงมาก

ขนาด 21,000 BTU – 30,000 BTU เหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่ห้องขนาดกลาง ถึงใหญ่ มีพื้นที่ในการใช้สอย หรือห้องที่มีความร้อนปานกลางถึงมาก เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องโถง

ขนาด 30,000 BTU – 36,000 BTU เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดใหญ่ มีสิ่งของเครื่องใช้ เช่น Home Office สำนักงาน ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ธุรกิจขนาดย่อม หรือห้องที่มีความร้อนมาก เป็นต้น

คำนวณค่า BTU อย่างไร?

สูตรการคำนวณ BTU คือ

BTU =  พื้นที่ห้อง [กว้าง (เมตร) x ยาว (เมตร)] x ตัวแปรความแตกต่าง 

โดยตัวแปรความแตกต่างจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท

ห้องที่มีความร้อนน้อยใช้เฉพาะกลางคืน = 650 – 700

ห้องที่มีความร้อนสูงใช้ในช่วงกลางวัน = 700 – 800

หรือสามารถประเมินขนาด BTU ที่เหมาะกับขนาดห้องเบื้องต้นได้ตามตารางด้านล่างดังนี้

หรือคำนวณค่า BTU เบื้องต้น ด้วยตัวเอง คลิกได้ที่นี่

บทความที่เกี่ยวข้อง
SELF CLEANING สะอาดกว่าที่เคยด้วยแอร์บ้านทำความสะอาดเองอัตโนมัติ เบาแรง ประหยัดเวลา

SELF CLEANING สะอาดกว่าที่เคยด้วยแอร์บ้านทำความสะอาดเองอัตโนมัติ เบาแรง ประหยัดเวลา

Highlight ปัญหาเรื่องกลิ่นอับจากแอร์เป็นอีกหนึ่งปัญหากวนใจที่เรามักพบได้บ่อย ๆ ใครที่เคยเจอปัญหานี้คงเข้าใจดี บางครั้งอาจจะเป็นกลิ่นอับชื้น บางครั้งก็เป็นกลิ่นเหม็นเปรี้ยว

อ่านต่อ

เลือกแอร์ให้ประหยัดไฟ ต้องดูที่อะไรบ้าง?

ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนแสนจะร้อนของประเทศเรา เชื่อว่าแทบทุกบ้านจะต้องมีแอร์ที่เป็นตัวช่วยสำคัญเพื่อคลายความร้อน ในทุกครั้งที่เจออากาศร้อน ๆ ก็จะคิดถึงแอร์เป็นอย่างแรก ๆ

อ่านต่อ
5 ข้อควรระวังแอร์ในหน้าฝน_Carrier

5 ข้อควรระวังแอร์ในหน้าฝน

เมื่อเข้าหน้าฝนแล้วต้องเจอสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ทั้งอากาศร้อน ฝนตกหนัก ต้องเจอกับอากาศที่มีความชื้นค่อนข้างสูงยิ่งต้องคอยเช็กและดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้ามากเป็นพิเศษ แอร์หรือเครื่องปรับอาการก็ไม่ควรที่จะละเลย เราจึงนำวิธีเช็กแอร์ในหน้าฝนมาฝาก

อ่านต่อ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

แชร์บทความ Carrier