หากพูดถึงเครื่องปรับอากาศ สิ่งที่หลายคนมักสงสัยก็คือ คอมแอร์ (หรือคอมเพรสเซอร์) ที่ติดตั้งอยู่บริเวณภายนอกของบ้านนั้นสามารถทนแดดทนฝนจริงหรือไม่ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่มีฝนตกแทบทุกวัน จนหลายคนอาจกลัวว่า ฝนจะทำให้คอมแอร์ช็อตหรือพังไวกว่าเดิม ซึ่งวันนี้ทางแคเรียร์ (Carrier) ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบปรับอากาศขอมาไขข้อสงสัยทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อให้คุณเข้าใจและดูแลคอมแอร์ได้อย่างถูกวิธี
คอมแอร์โดนฝน ได้ไหม
หากถามว่า คอมแอร์โดนฝนได้ไหม คำตอบก็คือ ได้ค่ะ คอมเพรสเซอร์แอร์ถูกออกแบบมาให้ถูกติดตั้งไว้บริเวณภายนอกอาคาร จึงทำให้ทนต่อสภาพอากาศกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นฝน ลม หรือความชื้น เนื่องจากโครงสร้างของตัวเครื่องมักทำจากเหล็กเคลือบสารกันสนิม และมีการซีลจุดเชื่อมต่าง ๆ ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำฝนขังภายในตัวเครื่อง
อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรปล่อยให้คอมแอร์แช่น้ำ หรือโดนฝนสาดเต็มแรงทุกวันเป็นเวลานาน หากพื้นที่ติดตั้งมีน้ำท่วมขัง หรือฝนสาดเข้าโดยตรงตลอดทั้งวัน น้ำอาจซึมเข้าสู่แผงวงจรหรือขั้วไฟฟ้า จนเกิดความเสียหายได้ โดยเฉพาะในรุ่นเก่าที่มีการเสื่อมสภาพของซีลยาง หรือท่อหุ้มสายไฟ
คอมแอร์โดนฝน มีผลอย่างไร
แม้ว่าคอมแอร์จะโดนฝนได้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ส่งผลเสียแต่อย่างใด เพราะน้ำฝนมีความเป็นกรดอ่อน ๆ เมื่อน้ำเกาะตามครีบระบายความร้อน (คอยล์ร้อน) หรือภายในมอเตอร์พัดลม อาจทำให้คอมเพรสเซอร์สึกกร่อนและเกิดสนิมได้เร็วขึ้น อีกปัจจัยหนึ่งก็คือ ฝุ่นและน้ำฝนที่ผสมกัน จนกลายเป็นคราบสกปรกเคลือบอยู่บนครีบระบายความร้อน ทำให้ประสิทธิภาพการถ่ายเทความร้อนลดลง ส่งผลต่อการทำงานของแอร์ที่หนักขึ้น ใช้ไฟมากขึ้น และเสียงดังกว่าปกตินั่นเอง
คอมแอร์ตากแดด มีผลอย่างไร
แดดในบ้านเราค่อนข้างร้อนจัด ซึ่งแน่นอนว่า เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คอมแอร์เสื่อมสภาพไวขึ้น เพราะเมื่อคอมแอร์อยู่ในจุดที่มีอุณหภูมิสูงจัด ตัวเครื่องจะต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อระบายความร้อนจากภายใน ส่งผลให้คอมเพรสเซอร์ทำงานเกินพิกัดและกินไฟมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
นอกจากนี้แสงแดดยังทำให้สีเคลือบผิวของตัวเครื่องซีดจาง และทำลายฉนวนสายไฟในระยะยาวได้ด้วย
ดังนั้นหากเราติดตั้งคอมแอร์ในจุดที่ตากแดดตลอดทั้งวันโดยไม่มีหลังคาหรือกันสาดบัง จึงทำให้เครื่องร้อนสะสม และอาจทำให้พัดลมระบายความร้อนทำงานหนักเกินความจำเป็นนั่นเอง
วิธีดูแลรักษาคอมแอร์
หลังจากที่เราเข้าใจปัญหา เมื่อคอมเพรสเซอร์แอร์โดนแดดโดนฝนกันไปแล้ว คราวนี้เรามาดูวิธีดูแลรักษาแอร์กันบ้าง โดยแคเรียร์มีคำแนะนำดี ๆ ดังนี้
- ล้างคอยล์ร้อนเป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อขจัดฝุ่นและคราบน้ำฝน
- ตรวจสอบขั้วไฟและสายไฟ หากพบเห็นสนิมหรือคราบขาวให้รีบทำความสะอาดหรือเรียกช่าง
- ไม่ควรคลุมคอมแอร์หลังใช้งาน อาจก่อให้เกิดเชื้อราและกลิ่นอับ
- เว้นระยะรอบตัวเครื่องให้โล่ง เพื่อระบายอากาศได้ดี
- ตรวจระดับน้ำยาแอร์ทุกปี โดยให้ช่างมืออาชีพดูแล เพื่อช่วยยืดอายุคอมเพรสเซอร์และลดปัญหาการกินไฟ
ติดตั้งคอมแอร์ตรงไหนดี
ตำแหน่งการติดตั้งคอมแอร์มีผลอย่างมากต่อทั้งประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของคอมเพรสเซอร์
- หลีกเลี่ยงแดดตรงๆ หรือติดตั้งกันสาดเพิ่มเติม
- ไม่ควรอยู่ในที่อับลม เพราะจะทำให้คอมเพรสเซอร์ระบายความร้อนได้ยาก
- เว้นระยะจากผนังอย่างน้อย 30-50 เซนติเมตร เพื่อระบายลมร้อนได้สะดวก
- ตั้งคอมแอร์ให้สูงกว่าระดับพื้นประมาณ 30 เซนติเมตรขึ้นไป เพื่อป้องกันน้ำท่วมและสิ่งสกปรก
สำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด การใช้ขาแขวน หรือชั้นวางคอมแอร์คุณภาพดีจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐานก็เป็นทางเลือกที่ทั้งปลอดภัยและเพิ่มความสวยงามไปในตัว เพราะชั้นวางเหล่านี้มักออกแบบมาให้ระบายอากาศได้ดี และมีระบบเคลือบกันสนิมเหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของเมืองไทย
บทสรุปไขข้อสงสัย คอมแอร์ โดนฝน ได้ไหม
โดยสรุปแล้ว เมื่อถามว่าคอมแอร์ โดนฝน ได้ไหม โดยเฉพาะรุ่น Copper 11 แน่นอนว่าได้ เพราะคอมเพรสเซอร์ถูกออกแบบให้ทนต่อสภาพอากาศกลางแจ้งด้วยคอยล์ทองแดง แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรปล่อยให้ฝนสาดหรือแดดเผานานเกินไป การดูแลรักษาเป็นประจำจะช่วยให้คอมแอร์ของคุณทำงานเต็มประสิทธิภาพ ประหยัดไฟ และอยู่กับบ้านของคุณไปได้อีกหลายปี และแน่นอนว่าหากคุณกำลังมองหาแอร์ที่ทนทั้งแดดและฝน พร้อมด้วยระบบทำความเย็นที่ประหยัดพลังงาน แอร์แคเรียร์ (Carrier) ถือเป็นหนึ่งในคำตอบที่ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกไว้วางใจ



