สไตล์บ้านญี่ปุ่นไม่เคยหายไปจากใจคนไทยเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าคนที่ชอบบ้านที่เน้นความเรียบง่าย ดูสบายตา เหมาะกับการพักผ่อนหลังเลิกงานหรือวันหยุด รวมถึงอาจจะมีพื้นที่เล็ก ๆ เอาไว้เป็นสวนหย่อมสีเขียวไว้เป็นกิจกรรมยามว่าง แน่นอนว่า การที่จะปลูกบ้านสไตล์นี้ในประเทศไทยก็อาจจะมีข้อพิจารณาบางอย่างอยู่เช่นกัน แล้ววันนี้แคเรียร์จะแนะนำไอเดียที่เหมาะกับบ้านญี่ปุ่นในประเทศของเรากัน
เสน่ห์ของบ้านญี่ปุ่น
สิ่งหนึ่งที่ทำให้บ้านญี่ปุ่นดูดีขึ้นมาก็คือ ความเรียบง่าย เน้นใช้งานจริงและกลมกลืนไปกับพื้นที่รอบตัวบ้าน ซึ่งเกิดจากพื้นฐานของการเน้นความสงบและการใช้ชีวิตจริงนั่นเอง นอกจากนี้ยังจะมีจุดเด่นอื่น ๆ อย่างการใช้ประตูกระดาษเลื่อน เสื่อทาทามิ ไปจนถึงการแบ่งโซนที่ชัดเจนตั้งแต่หน้าประตูบ้าน
ข้อดีของบ้านญี่ปุ่น
ด้วยความที่บ้านญี่ปุ่นมีเสน่ห์ไม่น้อยเลย จึงทำให้ได้รับความนิยมอย่างมาก เราไปดูข้อดีของบ้านสไตล์นี้กัน
1. เรียบง่าย สบายตา
เนื่องจากบ้านสไตล์นี้มักจะเน้นการตกแต่งให้เรียบง่ายเป็นสัดส่วน จึงทำให้บ้านดูโปร่งสบายตา มีพื้นที่ให้ใช้งานจริง และรู้สึกสงบเวลาอยู่บ้าน
2. เข้าถึงกับคนทุกวัย
ไม่ว่าสมาชิกในบ้านจะอยู่ในเจนไหน บ้านญี่ปุ่นมักจะสามารถนำไปแมตช์กับสไตล์อื่นได้ดี ทั้งโมเดิร์น นอร์ดิก หรือจะเป็นลอฟท์ก็สามารถนำไปผสมกับไอเดียของบ้านญี่ปุ่นได้ดี
3. เน้นใช้งานจริง
แม้ว่าบ้านสวยจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำหรับการเลือกปลูกหรือซื้อบ้าน แต่อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ การใช้งานจริง ซึ่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่นจะเน้นความสะดวกสบายเป็นหลักและใช้งานพื้นที่ต่าง ๆ ได้จริง
4. มีความเป็นธรรมชาติ
อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของบ้านญี่ปุ่นก็คือ การใช้ไม้ ซึ่งจะช่วยถ่ายเทความร้อนได้ดี ทำให้บ้านเย็นสบายได้ตลอดทั้งวัน และเหมาะกับประเทศไทยที่มีความร้อนชื้นสูง
5. มีความยืดหยุ่นสูง
เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องการป้องกันภัยพิบัติอย่างแผ่นดินไหวได้ดี บ้านสไตล์นี้จึงมักจะมีความยืดหยุ่นสูงเพื่อรับมือแรงสั่นสะเทือนได้ดี ซึ่งก็มาจากการออกแบบโครงสร้างนั่นเอง
ข้อเสียของบ้านญี่ปุ่น
แม้ว่าบ้านญี่ปุ่นจะมีข้อดีอยู่มากมาย แต่ก็ยังมีข้อเสียที่จะต้องนำไปพิจารณาหากต้องการจะสร้างบ้านสไตล์นี้กัน
1. ปัญหาเรื่องปลวกและแมลง
ด้วยความที่ใช้ไม้เป็นวัสดุหลัก หากไม่ได้รับดูแลหรือทาสีย้อมกันแมลงมาตั้งแต่แรก อาจทำให้มีแมลงต่าง ๆ มากัดเซาะไม้จนมีปัญหาได้
2. ราคาสูงกว่าการสร้างบ้านทั่วไป
ยังคงมีสาเหตุมาจากไม้เช่นเคย เพราะการสร้างบ้านไม้จำเป็นต้องใช้ไม้ที่มีคุณภาพและความแข็งแรงสูงเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา จึงทำให้วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างมีราคาแพงมากกว่าบ้านปูนทั่วไป รวมถึงจำเป็นต้องใช้ช่างที่มีฝีมืออีกด้วย
3. ปัญหาเรื่องไม้หดตัว
เพราะว่าประเทศไทยมีทั้งความร้อนและความชื้น จนมีโอกาสทำให้บ้านไม้ที่อยู่ไปสักระยะหนึ่งเกิดอาการหดตัวได้ ซึ่งอาจจะเกิดเสียงไม้ลั่นรบกวน ไปจนถึงอาการไม้บวมที่ต้องแก้ไขในอนาคต
4. บ้านเรียบเกินไป
อีกหนึ่งปัญหาเรื่องดีไซน์ เพราะบ้านญี่ปุ่นมักจะเน้นของน้อย ๆ และเน้นพื้นที่ใช้สอย อาจทำให้บางคนรู้สึกเบื่อได้
แชร์ไอเดียแต่งบ้านญี่ปุ่นให้เหมาะกับประเทศไทย
พูดถึงข้อดีและข้อเสียไปแล้ว เราจะมาแชร์ไอเดียการแต่งบ้านญี่ปุ่นให้เข้ากับอากาศของประเทศไทยกัน
1. มีหน้าต่างบานใหญ่รับแสงเต็มที่
เพราะว่าประเทศไทยมีแดดแรงอยู่แล้ว การใช้หน้าต่างบานใหญ่ก็จะช่วยรับแสงจากธรรมชาติได้เต็มที่ ช่วยให้บ้านสว่าง ดูโปร่งและอบอุ่นไปในตัว
2. ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น สามารถเปลี่ยนการจัดวางได้สะดวก
เพราะบ้านญี่ปุ่นเน้นการใช้งานจริง ฉะนั้นการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้งานได้จริงจึงสำคัญ นอกจากนี้การใช้เฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็นยังช่วยให้เราสามารถจัดบ้านตามการใช้จริงได้สะดวกมากขึ้น
3. จัดสวนย่อมน้อย ๆ เพิ่มพื้นที่สีเขียว
บ้านญี่ปุ่นที่เน้นการใช้ไม้และเฟอร์นิเจอร์น้อย ๆ อาจจะทำให้ภาพรวมของบ้านดูมิติน้อยเกินไป การที่เราทำสวนเล็ก ๆ เอาไว้เพิ่มสีเขียว ก็จะช่วยทำให้บ้านมีสีสันมากขึ้น และลดความร้อนไปในตัว
4. เลือกแอร์ที่มีดีไซน์เหมาะกับบ้าน
พูดถึงบ้านญี่ปุ่นแล้วก็ต้องมีการคุมโทนกันเล็กน้อย ซึ่งการเลือกใช้แอร์ที่สามารถปรับเปลี่ยนหน้ากากให้เข้ากับดีไซน์ก็กลายเป็นเรื่องสำคัญ โดยทางแอร์แคเรียร์ XInverter Plus ก็ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
5. ทำระแนงไม้สำหรับกั้นห้อง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเป็นสัดส่วน หรือจะเป็นเสน่ห์ของบ้านญี่ปุ่นเอง การใช้ระแนงไม้ถือเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก ไม่ว่าเป็นที่กั้นในบ้านเพื่อความเป็นส่วนตัว หรือจะทำเป็นรั้วระแนงไม้ก็ถือเป็นไอเดียที่เก๋ไม่เบา
บทสรุปแชร์แบบบ้านญี่ปุ่น เรียบง่าย เน้นธรรมชาติ
เห็นแบบนี้แล้ว หลายคนน่าจะได้ไอเดียสำหรับการแต่งบ้านญี่ปุ่นกันไปแล้ว รวมถึงมีทั้งข้อดี และข้อเสียของบ้านสไตล์นี้ ซึ่งใครที่กำลังมองหาบ้านที่เน้นความเรียบง่าย น่าอยู่ ใช้งานได้จริง และของไม่เยอะ ก็น่าจะได้คำแนะนำดี ๆ จากแคเรียร์กันไปแล้ว โดยบ้านสไตล์นี้อาจจะต้องได้รับการดูแลรักษา ไปจนถึงการเลือกใช้แอร์ที่คุมโทนเพื่อให้บ้านเรามีสไตล์บ่งบอกตัวตนได้ชัดเจน



