เรียกได้ว่าเรื่อง ‘บ้าน ๆ’ เป็นเรื่องที่ทั้งสำคัญและน่าปวดหัวไปพร้อมกัน แม้ว่าบ้านจะเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจในกับวันที่เหนื่อยแสนเหนื่อย แต่ก็มีอีกหลายเรื่องให้ต้องคอยดูแลและระวังอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไฟ เรื่องความปลอดภัย ไปจนถึงเรื่องการบำรุงรักษา เพื่อแก้ปัญหาบ้าน ๆ แบบนี้ จึงมีการพัฒนานวัตกรรมที่เรียกว่า Smart Home หรือบ้านอัจฉริยะ นวัตกรรมที่จะปลุกบ้านแสนรักของเราให้มีชีวิต และทำให้การอยู่บ้านง่ายขึ้นไปอีกระดับ
Smart Home คืออะไร ทำไมถึงมีชีวิต?
Smart Home หรือบ้านอัจฉริยะ คือระบบที่เชื่อมต่อสิ่งต่าง ๆ ภายในบ้านด้วย Ai และเทคโนโลยี Internet of Things หรือ IoT ที่เรียกว่า ‘Home Automation’ โดยจะมี Hub กลางทำหน้าที่รับ-ส่งสัญญาณระหว่างเครื่องใช้ภายในบ้าน กับแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน อุปกรณ์สั่งการด้วยเสียง และ Smart Home Device ช่วยให้เราสามารถตอบโต้กับบ้านของตัวเองได้ผ่านเสียงและมือถือ
ถ้าให้คิดภาพง่าย ๆ มันคือระบบปฎิบัติการสุดเจ๋งแบบที่ซุปเปอร์ฮีไร่ในหนังชอบใช้กัน เพื่อสั่งการสิ่งต่าง ๆ ภายในบ้านหรือศูนย์บัญชาการลับให้ทำโน่นนี่ให้เพียงแค่เอ่ยปากพูด ไม่ว่าจะสั่งเปิดประตู ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า รายงานอุณหภูมิความชื้นภายในอาคาร ไปยันรายงานความผิดปกติที่เกิดขึ้นรอบ ๆ
บ้านอัจฉริยะ อัจฉริยะแค่ไหน…
ระบบ Home Automation ช่วยเพิ่มความอัจฉริยะให้กับบ้าน ช่วยให้การอยู่บ้านของเราปลอดภัยขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น และยังทำให้การดูแลรักษาบ้านแสนรักของเราได้ง่ายขึ้นด้วย 3 ส่วน ดังนี้
ระบบรักษาความปลอดภัย คือระบบที่ช่วยควบคุมกล้องวงจรปิด ทำให้เราทราบความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้แบบเรียลไทม์ และยังช่วยแจ้งเตือนความผิดปกติภายในบ้าน เช่น แจ้งเตือนเมื่อประตูถูกเปิดค้างเอาไว้ หรือเมื่อพบความร้อนจากคนในขณะที่ไม่มีใครอยู่บ้านเป็นต้น
ระบบควบคุมไฟฟ้าและพลังงาน ช่วยควบคุมการเปิด-ปิดสวิตช์ไฟ สวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้า และก๊อกน้ำประปา ทำให้เราไม่ต้องลุกไปเปิด-ปิดหรือหรี่ไฟด้วยตัวเอง สามารถควบคุมค่าน้ำค่าไฟได้ง่ายขึ้น และสามารถเช็กความผิดปกติของระบบไฟและน้ำภายในบ้านได้อีกด้วย
ระบบควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน ที่ทำหน้าที่ควบคุมการเปิดและปิดของเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ของบ้านเช่น ผ้าม่านอัจฉริยะ ประตูรั้วไฮโดรลิค โทรทัศน์ ลำโพง ไปจนถึงเครื่องปรับอากาศ ช่วยให้เราไม่ต้องเปิดประตูรั้วเองเวลากลับบ้านกลางดึก และยังสามารถสั่งให้แอร์ทำงานก่อนจะถึงบ้านได้
ซึ่งอุปกรณ์ไฟฟ้าเหล่านี้จะต้องมีระบบพิเศษที่เชื่อมต่อกับ Smart Home Device ได้ อย่างแอร์แคเรียร์ Color Smart และ XInverter Plus ที่มีระบบ Control with Technologies ให้ผู้ใช้สั่งการเปิด-ปิดและควบคุมอุณหภูมิห้องด้วยเสียงได้ผ่านอุปกรณ์ Smart Home Device หรือควบคุมการทำงานผ่านแอพพลิเคชั่น ‘Carrier In The Air’
ยิ่งไปกว่านั้นแอพพลิเคชั่น Carrier In The Air ยังสามารถคำนวนพลังงานและเรียกดูค่าไฟฟ้าได้แบบเรียลไทม์ ทำให้การควบคุมพลังงานภายในบ้านเป็นไปได้ง่ายขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดแรงและพลังงานไปพร้อม ๆ กัน