น้ำยาล้างแอร์หนึ่งในสิ่งสำคัญของการทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ
เป็นที่รู้กันดีว่าเครื่องปรับอากาศจำเป็นต้องได้รับการดูแล รักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย ๆ คือการถอดฟิลเตอร์หรือแผ่นกรองอากาศมาล้างทำความสะอาดในทุก ๆ 2 สัปดาห์ นอกเหนือจากนั้นคือขั้นตอนของการล้างคอยล์เย็น ซึ่งเมื่อก่อนแล้วเรามักจะจ้างช่างมาล้างเครื่องปรับอากาศทุก ๆ 3 – 6 เดือน แต่ปัจจุบันมีน้ำยาล้างแอร์ที่เราสามารถลงมือล้างได้เองวางขาย การล้างแอร์ก็กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นไปเท่าตัว แต่แท้จริงแล้วน้ำยาล้างแอร์เหล่านี้ ล้างแอร์ได้เต็มประสิทธิภาพหรือไม่ มีผลเสียต่อแอร์หรือเปล่า แล้วต้องใช้น้ำยาแบบไหน วันนี้แคเรียร์มีคำตอบมาให้
ประเภทของน้ำยาล้างแอร์
ภาพการล้างแอร์ที่เราเห็นกันบ่อย ๆ ก็คือช่างแอร์ฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อการทำความสะอาดแผงคอยล์ให้ได้อย่างล้ำลึก นอกเหนือจากนี้ก็จะมีการใช้น้ำยาล้างแอร์ประเภทต่าง ๆ ที่ช่างแอร์เป็นคนใช้ หรือน้ำยาล้างแอร์ที่ใช้งานง่าย สะดวก จนทำให้ใคร ๆ ก็สามารถล้างแอร์ได้เอง ซึ่งมีประเภทดังนี้
1.น้ำยาล้างคอยล์
ซึ่งเป็นน้ำยาที่สามารถช่วยกัดกร่อนคราบได้เป็นอย่างดีแม้จะเป็นคราบสิ่งสกปรก และฝุ่นที่เกาะติดมาอย่างยาวนาน เพราะบางทีการใช้น้ำแรงดันสูงฉีดทำความสะอาด ก็ไม่สามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจด ยังมีฝุ่นค้างอยู่ตามซอกลึก ๆ ตามแผงคอยล์นั่นเอง อย่างไรก็ตามน้ำยาล้างคอยล์ประกอบไปด้วยสารกัดกร่อน ทำให้หากใช้บ่อย ๆ จะทำให้กัดกร่อนส่วนต่าง ๆ ของคอยล์เย็น และโลหะต่าง ๆ ส่วนมากจึงถูกใช้งานโดยช่างแอร์ผู้เชี่ยวชาญเป็นหลัก
2. น้ำยาล้างแอร์ชนิดโฟมทำความสะอาด
เป็นน้ำยาที่สามารถหาซื้อได้ง่ายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการล้างทำความสะอาดแอร์เอง ใช้งานง่าย เพียงแค่ฉีดโฟมลงไปในแผงคอยล์เพื่อทำความสะอาดตามซอกต่าง ๆ แต่ว่าผลลัพธ์ที่ได้ความสะอาดอาจจะไม่เท่ากับการล้างที่หมดจด อย่างที่จ้างช่างแอร์มาล้างทุก ๆ 3 – 6 เดือน แต่การใช้โฟมทำความสะอาดจะช่วยให้ กลิ่นอับจากแอร์หายไป อากาศสดชื่นขึ้น
จะเห็นได้ว่าน้ำยาทั้ง 2 ประเภท มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป อย่าง นำ้ยาล้างคอยล์ ถึงแม้จะมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดที่มากกว่า แต่ว่ามีโอกาสที่จะกัดกร่อนคอยล์เย็นได้มาก จึงไม่ควรใช้เป็นประจำ และควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเป็นคนใช้ ส่วนน้ำยาล้างแอร์ชนิดโฟม ถึงแม้จะสะดวกต่อการใช้งาน ใคร ๆ ก็ใช้ได้ แต่ว่ายังไม่สามารถทำความสะอาดได้ดีเท่าน้ำยาล้างคอยล์ สามารถช่วยได้แค่การลดกลิ่นอับ ให้อากาศสดชื่นเพียงเท่านั้น
นอกจากนี้ปัจจุบันเครื่องปรับอากาศหลาย ๆ รุ่นยังมีฟีเจอร์ที่แอร์สามารถทำความสะอาดเองได้อัติโนมัติ อย่าง Self Cleaning ในแอร์แคเรียร์ ที่จะทำความสะอาดตัวเองทันทีหลังจากปิดใช้งานแอร์ โดยเป็นการไล่ความชื้นออกมาจากแอร์ เพื่อป้องกันกลิ่นอับและเชื้อรา ช่วยลดสิ่งสกปรกในแอร์ได้อีกทาง