เพราะประเทศไทยถือเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องความร้อนเป็นอย่างดี เครื่องปรับอากาศจึงเป็นของจำเป็นที่ต้องติดกันทุกครัวเรือน ยิ่งช่วงหน้าร้อนอยากจะอยู่ในห้องแอร์ให้นานที่สุด เพื่อที่จะไม่ต้องไปเผชิญหน้ากับความร้อนระอุภายนอก ก็ขอเปิดแอร์อยู่บ้านกันยาว ๆ ดีกว่า เมื่อเปิดแอร์ก็เย็นใจ แต่สิ้นเดือนเมื่อไหร่ เหงื่อตกกันเป็นแถบ ๆ เพราะบิลค่าไฟที่สูงลิ่ว วันนี้แคเรียร์ขอเสนอ 5 วิธีเปิดแอร์ในหน้าร้อนนี้ยังไงให้ประหยัดไฟ ทำตามแล้วสบายกระเป๋าเยอะเลย
ไม่เร่งความเย็นตอนเปิดเครื่องปรับอากาศ
เข้าใจว่าหลายคนคงทนร้อนกันไม่ไหว แต่การเร่งความเย็นเครื่องปรับอากาศตอนเปิดด้วยวิธีการลดอุณหภูมิให้ต่ำลง เป็นวิธีที่ทำให้สิ้นเปลืองไฟโดยเปล่าประโยชน์ สู้รอแค่อึดใจเดียวเครื่องปรับอากาศก็ทำความเย็นได้ทันใจแล้ว หรืออีกวิธีหนึ่งคือให้ใช้โหมดเร่งความเร็วพัดลมแทนจะดีกว่า
ไม่เปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศบ่อย
ในทุก ๆ ครั้ง ที่มีการเริ่มทำงานใหม่เครื่องปรับอากาศจะมีการดึงพลังงานไฟไปใช้ค่อนข้างสูง และนอกจากจะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานแล้ว การเปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศบ่อยเกินไปเสี่ยงต่อเครื่องปรับอากาศมีปัญหาในภายหลังได้
ป้องกันไม่ให้แสงแดดส่องเข้ามาในห้อง
การที่มีแสงแดดส่องเข้ามาในห้องจำนวนมาก ทำให้ห้องมีอุณหภูมิสูงแอร์จะยิ่งทำงานหนัก หากห้องไหนที่โดนแดดส่องทั้งวัน ให้หาม่านที่ช่วยกันแสงอาทิตย์มาติดที่หน้าต่าง และก่อนเปิดเครื่องปรับอากาศให้เปิดหน้าต่างระบายอากาศเพื่อให้ระบายความร้อนออกไปจากห้อง
ไม่นำของที่มีความร้อนหรือของที่มีความชื้นเข้ามาในห้อง
ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างกาน้ำร้อน ล้วนทำให้อุณหภูมิห้องเพิ่มขึ้น และที่หลายๆ คนอาจจะมองข้ามกันคือ สิ่งของที่มีความชื้น เช่น เสื้อผ้าที่เปียก ภาชนะที่บรรจุของเหลว ฯลฯ ก็ทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น เพราะเครื่องปรับอากาศต้องทำหน้าที่กำจัดความชื้นในห้องออกไป จึงทำให้เปลืองค่าไฟนั่นเอง
เพิ่มอุณหภูมิให้อยู่ที่ 26-27 องศา
หากวันไหนที่อากาศไม่ร้อนมากนัก หรือมีความต้องการที่จะเปิดใช้เครื่องปรับอากาศทั้งวันให้ปรับอุณภูมิเป็น 26-27 องศา เพราะเรามักจะเข้าใจว่า 25 องศานั้นประหยัดไฟแล้ว แต่จริง ๆ แล้วอุณหภูมิ 25 องศา คืออุณหภูมิที่อยู่ในระดับที่เปิดแล้วสบายตัว แต่ถึงเราจะปรับอุณหภูมิเป็น 26-27 องศา ก็ไม่รู้สึกแตกต่างจาก 25 เท่าไหร่