คนในยุคใหม่นิยมเทรนด์การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมากขึ้น เพราะนอกจากความน่ารักของเจ้าสี่ขาตัวน้อยแล้ว ก็มีเรื่องของการดูแลเอาใจใส่ที่ทำได้ง่าย จึงทำให้คนนิยมเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นเพื่อนรู้ใจ เพราะตอบโจทย์กับคนรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก แต่การที่จะเลี้ยงสัตว์ทั้งที พื้นที่การเลี้ยงก็เป็นส่วนสำคัญ หลายคนเริ่มหันมาเลี้ยงสัตว์ในคอนโดกันมากขึ้น เพราะเป็นพื้นที่ที่ดูแลง่ายเป็นสัดส่วน และ สะดวกสบายอีกด้วยเรียกได้ว่าตอบโจทย์มากสุดๆ แต่ถ้าใครยังไม่รู้ว่าจะเริ่มเลี้ยงสัตว์ในคอนโด มาดูไปพร้อมๆกันเลย
ประโยชน์ของการเลี้ยงสัตว์
การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนอกจากจะช่วยให้เราคลายเหงาได้เพราะความน่ารักของบรรดาๆน้องแล้ว ยังมีประโยชน์
มากกว่าที่พวกเราคิด
– เลี้ยงสัตว์ทำให้สุขภาพกายดีขึ้น การเลี้ยงสัตว์นอกจากที่เราจะได้เล่นหยอกล้อกับน้อง ๆ แล้ว เรายังสามารถพาน้องๆไปเดินเล่นได้อีกด้วย โดยเฉพาะกับสุนัขที่รักในการเดินเป็นชีวิตจิตใจ การพาเขาไปเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจนอกจากจะทำให้เจ้าสี่ขาขนปุยอารมณ์ดีไม่มีเบื่อ ก็ยังช่วยให้เราได้ออกกำลังกายไปในตัว โดยมีรายงานวิจัยพบว่าเวลาที่เราได้ออกไปใช้ชีวิตข้างนอก ได้อยู่กับธรรมชาติรับแสงแดดและวิตามินดี จะช่วยในการเผาผลาญแคลอรีและช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร และช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นอีกด้วย
– เลี้ยงสัตว์ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นและคลายเครียดได้ ในช่วงเวลาที่เราได้เล่นกับสัตว์เลี้ยง ฮอร์โมน
คอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกิดขึ้นเมื่อมีความเครียดจะมีการลดระดับลง และ มีการหลั่งฮอร์โมนโดพามีน (Dopamine) และ ฮอร์โมน (Oxytocin) ซึ่งช่วยในการปรับระดับโลหิตและคลายเครียด ส่งผลให้เรามีอารมณ์ดีทุกครั้งเมื่อเล่นกับสัตว์เลี้ยงนั้นเอง
แม้ว่าการเลี้ยงสัตว์จะสร้างประโยชน์ให้เราได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจ แต่การที่จะเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ที่จำกัดนั้นมีข้อห้ามมากกว่านั้นเนื่องด้วยคอนโดเป็นสถานที่ที่มีพื้นที่จำกัด การจะนำสัตว์มาเลี้ยงจำเป็นที่ต้องคำนึงถึงสุขภาพของเจ้าของห้อง และ สุขภาพของสัตว์เลี้ยงด้วย ดังนั้นแคเรียร์จะขอแนะนำสัตว์เลี้ยงที่เหมาะกับการเลี้ยงในคอนโดมาให้อ่านกัน
สัตว์เลี้ยงประเภทไหนที่เหมาะกับการเลี้ยงในคอนโด
จะมองทางซ้ายที ทางขวาทีเจ้าพวกสัตว์เลี้ยงก็น่ารักน่าเลี้ยงไปเสียหมด แต่ด้วยพื้นที่ที่มีความจำกัดในการเลี้ยงสัตว์ในคอนโด ที่เราไม่ใช่ผู้อาศัยอยู่แค่คนเดียว แต่ต้องอาศัยอยู่กับเพื่อนบ้านอีกนับร้อยชีวิต การให้เกียรติซึ่งกันและกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ การที่จะมีสัตว์เลี้ยงซักหนึ่งตัวก็อาจจะต้องคำนึงถึงอะไรหลายๆอย่างที่มากกว่าเพียงแค่ความน่ารัก ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าการเลี้ยงสัตว์ในคอนโดควรเป็นสัตว์ประเภทไหนกันนะ
แมว การเลี้ยงแมวในคอนโด เรียกได้ว่าเป็นตัวเลือกสุดฮิตของหลายๆคนเลย ด้วยขนาดของน้องแมวที่ตัวเล็กแถมยังอยู่ง่ายกินง่าย ไม่ค่อยร้องเสียงดัง ชาวคอนโดหลายๆคนจึงนิยมเลี้ยงเป็นเป็นส่วนใหญ่
แฮมสเตอร์ เจ้าสัตว์เลี้ยงตัวจิ๋วแก้มป่อง เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่หลายคนเลือกมาเลี้ยงเพราะนอกจากจะไม่ส่งเสียงร้องให้กวนใจใครแล้ว ยังเลี้ยงง่ายอยู่ง่าย หมดปัญหากลิ่นรบกวนใจใครหลายๆคนอีกด้วย
กระต่าย สัตว์ฟันแทะที่รักความสงบ และ ไม่ส่งเสียงรบกวนให้กวนใจ และสามารถดูแลได้ง่ายเพียงแต่ต้องระวังเรื่องกลิ่นกับเสียงดังที่อาจจะทำให้เจ้ากระต่ายตกใจได้ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
สุนัข แม้ใครหลายคนอาจคิดว่า การเลี้ยงสุนัขในคอนโดอาจจะสร้างความลำบากได้ แต่ก็ใช่ว่าจะห้ามเลี้ยงเสมอไป ยังมีชาวคอนโดหลายคนที่เลือกเลี้ยงสุนัขเอาไว้ในคอนโดเพราะว่าเจ้าสี่ขาขนปุยนั้นขี้อ้อนเกินใคร แต่ควรที่จะฝึกน้องให้เป็นระเบียบในการส่งเสียง และ การขับถ่ายก่อนนะ เพื่อที่จะไม่รบกวนเพื่อนบ้าน
เช็กลิสต์เตรียมพร้อมก่อนเอาสัตว์เลี้ยงเข้ามาเลี้ยงในคอนโด
เมื่อรู้แล้วว่าจะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงอะไรไว้ในคอนโด ทีนี้เราก็ต้องเตรียมพื้นที่ของเราให้พร้อมก่อนจะรับน้องมาเลี้ยง สำหรับใครที่ยังไม่รู้จะเริ่มยังไงเรามี 5 เช็กลิสต์ แต่งบ้านเอาใจน้อง ๆ มาให้ดูกัน
1.เช็กสถานที่ให้พร้อม
เราควรพิจารณาก่อนว่าสัตว์ที่เราเลือกที่จะเลี้ยง ต้องการสถานที่แบบไหน พื้นที่แบบใดถึงจะเหมาะกับเจ้าพวกสัตว์เลี้ยงตัวน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลี้ยงสัตว์ในคอนโด ด้วยพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัด อาจจำเป็นที่จะต้องจัดสรรพื้นที่ให้เหมาะสมและเพียงพอ อาทิเช่น การเลี้ยงสุนัขในคอนโด ควรมีพื้นที่ให้เจ้าตัวแสบวิ่งเล่นอย่างสบายใจเพราะสัตว์เลี้ยงแต่ละประเภทมีความต้องการที่ต่างกัน หรือ หากเลี้ยงแมวในห้องนอน ก็ควรมีพื้นที่ให้เจ้าเหมียวได้มองวิวด้วย เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ชอบมองการเคลื่อนไหว
2.เช็กวัสดุที่แต่งห้องให้พร้อม
ควรเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับการเลี้ยงสัตว์เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดการบาดเจ็บหรืออันตราย โดยควรเลือกผนัง พื้น เฟอร์นิเจอร์ ให้เหมาะสม โดยพื้นควรมีผิวหยาบ มีการเว้นร่อง เพื่อให้เท้าสามารถยึดเกาะได้และ ลดอัตราการเกิดปัญหาสะโพกเสื่อมที่ชอบเกิดขึ้นในสัตว์ รวมถึงควรเลือกสีทาบ้านที่ทำความสะอาดได้ง่าย และไม่มีสารที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสัตว์ และ ควรหลีกเลี่ยงการใช้พรม เพราะทำความสะอาดได้ยาก รวมถึงเป็นแหล่งสะสมของขนสัตว์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ โดยเฉพาะคนที่ชอบเลี้ยงแมวในห้องนอนต้องระวังเลยนะ หรือถ้าใครอดใจไม่ไหว ลองเปลี่ยนมาใช้แอร์แคเรียร์ที่มี PM 2.5 Filter จะสามารถช่วยกรองฝุ่นหรือขนสัตว์ขนาดเล็กได้ถึง 94 %และเคลือบสารที่ทำหน้าที่ลดการเกิดแบคทีเรียและไวรัสได้อีกด้วย
3.เช็กความสะดวกสบาย และ ความปลอดภัย
ใครที่เลี้ยงสัตว์คงรู้อยู่แล้วว่าสัตว์แต่ละตัวมีความซนของตัวเองอยู่ในตัว จนอาจจะส่งผลให้เกิดอันตราย
หรือว่าบาดเจ็บได้ โดยเฉพาะคนที่เลี้ยงสัตว์ในคอนโด ดังนั้นควรมีประตูกั้นหรือตาข่ายกั้นบริเวณระเบียงเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงตกจากที่สูงได้
4.เช็กเรื่องความสะอาด
การเลี้ยงสัตว์อาจมีปัญหาที่ตามมาคือเรื่องกลิ่น ดังนั้นอย่าลืมที่จะเพิ่มช่องระบายอากาศภายในบ้านหรือคอนโดให้ถ่ายเทได้สะดวก และทำความสะอาดห้องอยู่เป็นประจำเพื่อป้องกันกลิ่นอับและคราบสกปรกที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
5.เช็กพื้นที่สร้างมุมโปรดให้น้องหมาน้องแมว
ควรแบ่งสัดส่วนในห้องให้มีความชัดเจนระหว่างเจ้าของกับสัตว์เลี้ยงอย่างชัดเจน เช่น มุมขับถ่าย
มุมอาหาร มุมที่นอน มุมเล่น จะทำให้ดูแลทำความสะอาดง่ายขึ้น และเป็นการฝึกน้องหมาน้องแมวไปในตัวเพราะให้เรียนรู้ว่ามีพื้นที่อยู่จำกัดแค่ไหน
ไร้ฝุ่นกวนใจ…..ใช้แอร์แคเรียร์
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเราจะมีการเช็กสถานที่และเตรียมพร้อมสำหรับการเลี้ยงสัตว์ในคอนโด แต่ด้วยพื้นที่ที่มีอย่างจำกัด ก็อาจจะยังมีปัญหาที่ยังเลี่ยงไม่ได้ทั้งเรื่องขนสัตว์ หรือ เรื่องของกลิ่นที่ไม่พึ่งประสงค์
ดังนั้นแคเรียร์ขอนำเสนอตัวช่วยดี ๆ ที่จะช่วยลดปัญหาดังกล่าวที่เป็นต้นตอนำไปสู่ปัญหาสุขภาพได้ ด้วยการเลือกใช้เครื่องปรับอากาศจากแคเรียร์ระบบอินเวอเตอร์รุ่น XInverter Plus ที่มีระบบ X-IONIZER ที่สุดของการฟอกอากาศ ซึ่งจะช่วยให้อากาศในคอนโดของคุณปลอดภัย ไร้ฝุ่นและแบคทีเรียมากวนใจ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทุกคนสามารถทำได้ง่ายๆสามารถศึกษาข้อมูลเครื่องปรับอากาศเพิ่มเติมได้ที่ https://carrierthailand.com/air-conditioner/