เคยไหมกับการเลือกเครื่องปรับอากาศแต่ละที ต้องมาคอยคิดว่าแบบไหนถึงจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเรา ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเลือกเครื่องปรับอากาศไม่เหมาะกับพื้นที่ใช้สอย ก็ยิ่งอาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาแอร์เย็นไม่ทั่วห้อง เปลืองค่าไฟ และอาจส่งผลให้แอร์ทำงานหนักจนเกิดการชำรุดได้ วันนี้แคเรียร์จึงมีเคล็ดไม่ลับวิธีเลือกซื้อแอร์ยังไงให้คุ้มมาบอกกัน
ประเภทของแอร์
การที่จะเลือกซื้อแอร์ซักเครื่อง นอกจากจะดูที่พื้นที่ ฟังก์ชันที่ตอบสนองและต่อการใช้งานแล้ว เราจำเป็นที่จะต้องรู้ประเภทของเครื่องปรับอากาศเสียก่อนว่ามีอะไรบ้างเพื่อที่จะเลือกใช้กับพื้นที่ของคุณให้ถูกต้องโดยแคเรียร์ขอนำเสนอเครื่องปรับอากาศยอดฮิตที่นิยมใช้มาให้ทุกคนรู้จักกัน
- แบบติดผนัง (Wall type)
เป็นแอร์ที่เป็นที่นิยมใช้ในปัจจุบันมาก ด้วยขนาดที่เล็ก และมีการออกแบบทั้งสีและรูปร่างที่หลากหลายทำให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์
- แบบตั้งแขวน (Ceiling type)
ข้อดีของแอร์ประเภทนี้ลมแอร์ที่แรงกว่าและกระจายลมแอร์ไปได้อย่างทั่วถึงมากกว่า เหมาะสำหรับห้องที่ไม่มีพื้นที่ผนัง แต่ด้วยต้นทุนการผลิตที่สูง จึงอาจทำให้ราคาของแอร์ประเภทนี้ราคาสูงตามขึ้นไปด้วย
- แบบฝังฝ้าเพดาน สี่ทิศทาง (Cassette type)
หากใครชื่นชอบความสวยงามก็คงพลาดไม่ได้กับแอร์ประเภทนี้ เพราะเครื่องแอร์จะซ่อนอยู่ภายในผนังทำให้เราไม่เห็นแอร์โดยตรง
- แอร์แบบท่อลม (Duct type)
แอร์ประเภทนี้ทำหน้าที่โดยการใช้ท่อลมส่งความเย็นเข้าตามห้องต่าง ๆ แล้วแต่ว่าจะมีกี่ห้อง ตามที่เราออกแบบมา แต่ข้อเสียคือหากมีการชำรุดเกิดขึ้นจะทำให้ห้องต่าง ๆ ไม่ได้รับความเย็นตามไปด้วย
จะเห็นได้ว่าแอร์แต่ละประเภทนั้นมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไปตามแต่ชนิด การที่เราเลือกให้แอร์ที่มีขนาดใหญ่ก็ใช่ว่าจะทำให้เย็นเร็วเสมอไป หรือหากเลือกซื้อแอร์ที่มีขนาดเล็ก ก็ไม่ได้ทำให้ประหยัดไฟมากขึ้น ดังนั้นก่อนที่จะเลือกใช้แอร์ประเภทใดควรที่จะคำนึงถึงพื้นที่ใช้สอย หรืออาจคำนวณค่า BTU เสียก่อน ซึ่งใครที่ไม่รู้ว่าจะคำนวณค่า BTU อย่างไร สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของการคำนวณค่า BTU ได้ง่าย ๆ ที่ https://carrierthailand.com/btu-calculator/
นอกเหนือจากการรู้ประเภทของเครื่องปรับอากาศแล้ว แคเรียร์ยังมีทริคดี ๆ ที่จะทำให้การเลือกเครื่องปรับอากาศของคุณนั้นง่ายขึ้นกว่าเดิมด้วยวิธีเลือกซื้อแอร์อย่างไรให้คุ้มที่สุด
เคล็ดไม่ลับเลือกแอร์ยังไงให้คุ้มที่สุด
- มีฉลากไฟเบอร์ 5
การเลือกซื้อแอร์ที่มีฉลากไฟเบอร์ 5 หรือฉลากแสดงประสิทธิภาพพลังงาน จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าเครื่องปรับอากาศของคุณจะประหยัดไฟยิ่งขึ้น โดยล่าสุดได้มีการเพิ่มดาวเข้ามาในฉลากไฟ ถ้ายิ่งมีดาวสูงสุด 3 ดาวเมื่อไหร่ ก็จะยิ่งประหยัดไฟมากขึ้น
- สามารถสั่งการได้ง่าย สะดวกสบาย
จะเลือกซื้อแอร์ทั้งที แต่กลับใช้งานลำบากก็คงจะเป็นเรื่องยากไม่ใช่น้อย ดังนั้นเราควรเลือกซื้อแอร์ที่สามารถใช้งานได้ง่าย สั่งการได้หลายรูปแบบ เช่น การสั่งการผ่านระบบ WiFi Built-in ที่สามารถสั่งการเปิด-ปิด เพิ่ม-ลด อุณหภูมิได้ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ใช้งานสะดวก ก็จะทำให้ชีวิตของคุณสบายขึ้น
- เลือกประเภทแอร์ที่เหมาะสมกับพื้นที่
แอร์ที่เราเลือกใช้อยู่ในทุกวัน อาจจะมีคุณสมบัติให้ความเย็นเหมือนกัน แต่ว่ารูปแบบแตกต่างกันไปตามพื้นที่การใช้งาน ดังนั้นเราควรที่จะเลือกแอร์ให้ตรงกับขนาดพื้นที่ของเราเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแอร์ไม่เย็น ค่าไฟแพง หรือแอร์ทำงานหนักเกินไปตามมาในภายหลัง
- เลือกแอร์ระบบ Inverter
การเลือกซื้อแอร์ที่มีระบบ Inverter จะทำให้เราได้แอร์ที่มีคุณภาพดียิ่งขึ้น ทั้งการทำความเย็นภายใต้เสียงที่เงียบเชียบ รวมถึงจัดการระบบคอมเพรสเซอร์ให้มีความสมดุล ทำงานคงที่ในอุณหภูมิที่ตั้งไว้ ช่วยให้อากาศเย็นสบายตลอดทั้งวัน
- มีฟังก์ชันฟอกอากาศภายในตัว
แอร์ที่ดี ไม่จำเป็นต้องเป็นแอร์ที่ให้แค่ความเย็นอย่างเดียว แต่ต้องมาพร้อมฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ในทุกปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาฝุ่นละอองที่อยู่คู่กับเรามากอย่างยาวนาน การเลือกซื้อแอร์ที่มีฟังก์ชันฟอกอากาศจะช่วยให้สุขภาพของคุณดียิ่งขึ้น และได้รับอากาศสดชื่นไปแบบเต็ม ๆ
แคเรียร์ที่สุดของเครื่องปรับอากาศตอบโจทย์ทุกความคุ้ม
ถ้าการเลือกซื้อแอร์ซักเครื่องเป็นเรื่องที่ยากเกินไป ลองเปลี่ยนมาใช้เครื่องปรับอากาศจากแคเรียร์รุ่น Copper 11 ที่ไม่ได้มีดีที่ความเย็นอย่างเดียว แต่ยังพร้อมไปด้วยความสะดวกสบาย สั่งงานได้ง่ายผ่านแอพลิเคชัน Carrier In The Air ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็เย็นได้ไม่มีห่วง พร้อม 12 ฟีเจอร์ที่ครบครันสูดหายใจได้เต็มปอดตลอดทุกการพักผ่อนของคุณ และที่คุ้มที่สุดก็คือ การรับประกันคอมเพรสเซอร์ยาวนานถึง 10 ปี และรับประกันอะไหล่ถึง 5 ปี บอกเลยว่าจะเลือกแอร์ให้คุ้มทั้งที ก็ต้องแอร์แคเรียร์เลย ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://carrierthailand.com/air-conditioner/