มันคงจะไม่ดีแน่ ถ้าห้องที่เราอยู่มีกลิ่นอับไม่พึงประสงค์อยู่ทั่วทุกมุมห้อง โดยเฉพาะกลิ่นอับที่มาจากช่องแอร์ ถือว่าเป็นจุดแพร่กระจายกลิ่น และเชื้อโรคสะสม ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพซึ่งดป็นปัญหากวนใจที่หลาย ๆ คนต้องกลุ้มใจ หมดปัญหาเรื่องกลิ่นอับในห้องของคุณ แคเรียร์มีทริคดี ๆ มาฝากทุกคนอีกเช่นเคย อยากให้ห้องไร้กลิ่นอับ ไม่อับชื้น อ่านบทความนี้จบบอกเลยว่าห้องกลับมาเฟรชสดชื่นแน่นอน
ชวนมาสำรวจกลิ่นอับเกิดจากอะไรบ้าง?
มาดูกันว่ากลิ่นอับที่สะสมในบ้านนั้นมาจากสาเหตุอะไร เพราะอย่างที่เรารู้กันว่ากลิ่นอับที่สะสมในบ้าน นอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพแล้ว ยังเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค มาเช็กกันสาเหตุที่ทำให้เกิดไม่พึงประสงค์ในห้อง
- ปัญหากลิ่นสะสม: มักมาจากอาหาร บุหรี่ กลิ่นจากสัตว์เลี้ยง กลิ่นในห้องครัว
- ปัญหากลิ่นห้องอับง่าย: กลิ่นอับจะเกิดขึ้นในห้องที่ค่อนข้างปิดทึบ อากาศไม่ถ่ายเท
- ปัญหาสิ่งของในห้องอับชื้นง่าย: เสื้อผ้าในตู้ โซฟา ผ้าม่าน หรือพรม
5 วิธี กำจัดห้องอับชื้นให้อยู่หมัด
ถ้าไม่อยากนอนหลับไปพร้อมกับกลิ่นเหม็นอับ และโรคนานาชนิด รีบเคลียร์ห้องตัวเองด่วน เพื่อป้องกันห้องอับชื้น และมีกลิ่นอับ สามารถทำได้ตามนี้เลย
1.ห้องปิดทึบไม่มีหน้าต่าง
สำหรับคนที่ต้องอยู่คอนโด หรือหอพักจะไม่ค่อยมีหน้าต่าง และส่วนใหญ่จะเป็นห้องปิดทึบ ทำให้การระบายอากาศถ่ายเทเป็นเรื่องที่ยาก และมักจะมีกลิ่นสะสมอยู่ภายในห้อง สาเหตุมาจากขยะ กลิ่นจากกองเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว หรือมาจากกลิ่นอาหารที่นำไปรับประทานในห้อง เมื่อไม่มีการระบายอากาศ จะทำให้มีความชื้นสะสมในห้อง และห้องอับชื้นตามมา
💡ข้อแนะนำ:
- ทำให้ห้องมีอากาศถ่ายเทสะดวกให้ได้มากที่สุด เปิดประตูหน้าต่างเพื่อให้ห้องนอนมีอากาศ ใช้พัดลมช่วยระบายอากาศ เปิดประตูรับแสงแดดจากภายนอก และลม จะช่วยลดการสะสมของความชื้นภายในห้องได้
2.ห้องที่ไม่ทำความสะอาด
ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนที่ไม่ค่อยมีเวลาจึงทำให้เราละเลยเรื่องทำความสะอาดในห้อง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของขยะที่ไม่ได้ทิ้ง ไม่ได้กวาดห้อง ถูทำความสะอาดห้อง เป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดฝุ่นสะสม และห้องอับชื้นในที่สุด
💡ข้อแนะนำ:
- ทำความสะอาดห้องอยู่เสมอ ในกรณีที่ไม่ค่อยมีเวลา แนะนำให้ทำความสะอาดห้องอาทิตย์ละ 2 ครั้งเป็นอย่างต่ำ จัดการเศษอาหาร ขยะ ล้างห้องน้ำ รวมไปถึงซักผ้าให้เรียบร้อย จะช่วยป้องกันการเกิดกลิ่นเหม็น และช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อโรคต่างๆ ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้อีกด้วย
- ไม่ควรนำอาหาร หรือขนม มาทานในห้องนอน เพราะจะทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในห้องได้ อาจทำให้มีมด หรือเชื้อโรคต่างๆ เข้ามาอยู่ในห้องร่วมกับคุณ เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการนำอาหาร หรือขนมมารับประทานภายในห้องนอน
3.ห้องที่มีกลิ่นอับจากเสื้อผ้า และเฟอร์นิเจอร์
ตู้เสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ทำความสะอาด และยังมีผ้าปูที่นอนไม่ได้ซัก เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับกระจายไปทั่วห้อง นอกจากนี้การตากผ้าในห้องจะทำให้เกิดแบคทีเรียสะสมบนเสื้อผ้า พร้อมกลิ่นเหม็นอับของเฟอร์นิเจอร์ด้วย
💡ข้อแนะนำ:
- อย่าตากผ้าที่เปียกชื้นในห้องนอน จะทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นเหม็นอับ และภายในห้องนอนควรให้ตากผ้าในบริเวณที่มีแดดและลมเข้าถึง และมีอากาศถ่ายเทสะดวก
- อย่าวางเสื้อผ้าที่ใส่แล้วไว้ในห้อง เสื้อผ้าที่ใช้แล้วในแต่ละวัน มักต้องเผชิญกับฝุ่นควัน รวมถึงสิ่งสกปรกต่างๆ จากภายนอก เพราะฉะนั้นไม่ควรนำมาไว้ภายในห้องนอนเด็ดขาด เพราะนอกจากต้องเจอกับปัญหากลิ่นเหม็นอับแล้ว อาจมีเชื้อโรคปะปนมาอีกด้วย
4.ห้องที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง
สำหรับคนที่เป็นทาสหมา ทาสแมว บอกเลยว่าเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเหลี่ยงปัญหาห้องอับชื้น เพราะสัตว์เลี้ยงจะมีกลิ่นสาบเฉพาะตัว ในกรณีที่สัตว์เลี้ยงของคุณไม่ได้อาบน้ำ ขนร่วงตามพื้น ต้องมีกระบะทรายสำหรับขับถ่ายไว้ในห้อง จะส่งผลให้ห้องของคุณมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ง่าย
💡ข้อแนะนำ:
- ควรกวาด และถูพื้นบ้านเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง โดยเฉพาะจุดที่สัตว์เลี้ยงของคุณชอบนั่งและชอบนอนเป็นพิเศษ
- อยากให้บ้านหอมสดชื่น ต้องอย่าลืมหมั่นดูแลรักษาความสะอาดของสัตว์เลี้ยง และห้องของคุณ จะได้ช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในห้องให้เหลือแต่กลิ่นหอมสะอาดสดชื่น
5.ห้องเหม็นอับจากเครื่องปรับอากาศ
ห้องเหม็นอับอาจเกิดจากเครื่องปรับอากาศที่ไม่ได้ล้างทำความสะอาดมาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งแอร์ถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้งานบ่อย ทำให้มีสิ่งสกปรกจำนวนมากที่อยู่ในอากาศ และเข้าไปสะสมอยู่ภายในเครื่อง เป็นปัจจัยสำคึญที่ทำให้เกิดกลิ่นอับขึ้นได้ ดังนั้นควรล้างทำความสะอาดแอร์เป็นประจำทุก 6 เดือน
💡ข้อแนะนำ:
- การล้างแอร์ไม่สม่ำเสมอ (ทุก 6 เดือน) ที่ถูกเว้นระยะเวลามานานเกินไปทำให้สิ่งสกปรกสะสมตามส่วนต่าง ๆ ได้ เช่น ฟิลเตอร์ คอยล์ หรือถาดน้ำทิ้ง ที่เป็นส่วนทำให้เกิดกลิ่น
บอกลากลิ่นอับ ด้วยแอร์ทำความสะอาดเองได้
หมดปัญหาห้องมีกลิ่นอับจากแอร์ แค่ใช้แอร์แคเรียร์ มาทำความรู้จักระบบทำความสะอาดตัวเองอัตโนมัติ หรือที่เรียกว่าระบบ Self Cleaning เมื่อเรากดปุ่มปิดแอร์ พัดลมภายในจะยังทำงานอยู่ด้วยความเร็วที่ต่ำที่สุดเป็นเวลา 20-30 นาที
ระบบ Self Cleaning ของแคเรียร์จะช่วยไล่ความชื้นออกจากแผงคอยล์ที่เป็นสาเหตุหลักของกลิ่นอับ และเชื้อรา ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา อย่างการล้างแอร์บ่อย ๆ ได้ อีกทั้งยังช่วยทำให้แอร์มีอายุการใช้งานนานขึ้นอีกด้วย
สุดท้ายนี้ก่อนจากกันไป…ใครสะดวกใช้วิธีแก้ห้องเหม็นอับชื้นแบบไหน ลองเลือกไปปรับใช้กันได้เลย แคเรียร์รับรองว่าทริคที่เอามาฝากวันนี้จะช่วยคืนอากาศสะอาดหอมสดชื่น ไม่ต้องมีกลิ่นอับมากวนใจให้กับห้องคุณได้อย่างแน่นอน