ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ ปัญหาที่ทุกบ้านต้องเจอก็คือ “แอร์ไม่เย็น” เพราะไม่ว่าจะเปิดแอร์แรงแค่ไหนก็ยังร้อนเหงื่อซกอยู่เหมือนเดิม ซึ่งจริง ๆ แล้วปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกี่ยวข้องกับระบบปรับอากาศของแอร์ ในบทความนี้ จะอธิบายทั้งอาการ สาเหตุ และเทคนิคแก้แอร์ไม่เย็น เพื่อให้เจ้าของบ้านสามารถเข้าใจปัญหาและลงมือแก้ไขได้อย่างถูกวิธี
แอร์ไม่เย็นมีอาการอย่างไร
เมื่อแอร์เริ่มเสื่อมสภาพ ความสามารถในการทำความเย็นก็จะลดลงอย่างรวดเร็ว โดยส่วนใหญ่จะพบความผิดปกติต่าง ๆ เช่น แอร์มีแต่ลม ไม่เย็น แอร์ทำงานเสียงดัง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการติดตั้งไม่เรียบร้อย หรือชิ้นส่วนภายในเสื่อมสภาพ นอกจากนี้หากท่อน้ำทิ้งของแอร์อุดตัน ก็อาจพบกรณีน้ำหยดจากแอร์ได้อีกด้วย บางบ้านถึงขึ้นมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ กลิ่นอับหรือกลิ่นเหม็น ซึ่งจะมาจากความชื้นสะสมหรือเกิดการอุดตัน ส่งผลให้แอร์เย็นช้า ทำงานนานกว่าจะเย็น ต้องเปิดแอร์นานหลายชั่วโมง
แอร์ไม่เย็นเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง
ก่อนที่แอร์จะเสียหายไปมากกว่านี้ ขอมาอธิบายวิธีเช็ค เพื่อตรวจสอบว่าจริง ๆ แล้วแอร์ไม่เย็นนั้นมีสาเหตุมาจากอะไร เพราะปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณสังเกตความผิดปกติของแอร์ได้อย่างทันท่วงที โดยทั่วไปแล้วมักจะพบอาการเหล่านี้ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ดังนี้:
1. น้ำยาแอร์ต่ำ
น้ำยาแอร์ทำหน้าที่เพิ่มการดูดซับและถ่ายเทความร้อน หากน้ำยาแอร์รั่วซึมหรือไม่พอ แอร์จะไม่เย็นหรือเย็นช้ากว่าปกตินั้นเอง
2. คอยล์เย็นหรือคอยล์ร้อนสกปรก
เมื่อภายในแอร์มีการสะสมฝุ่นหรือคราบไขมันอย่างต่อเนื่อง ทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนัก กินไฟและตัดบ่อย ส่งผลให้แอร์ทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร
3. การติดตั้งไม่ถูกต้อง
เพราะแอร์ที่ติดตั้งผิดตำแหน่งหรือไม่ได้มาตรฐาน จะลดประสิทธิภาพของการทำความเย็นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น คอยล์ร้อนโดนแดดตรง ๆ ท่อน้ำยายาวเกินสเปก ต่อฉนวนไม่มิดชิด ซึ่งอาจทำให้แอร์ทำงานหนักและเย็นไม่ทันใจ
4. ฟิลเตอร์อุดตัน
เกิดจากแผ่นกรองอากาศที่ไม่ได้ทำความสะอาดเป็นเวลานาน และมีฝุ่นสะสมเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากหลักการถ่ายเทความร้อน หากปริมาณความเย็นที่ส่งเข้าห้องลดลง แอร์ก็จะแลกเปลี่ยนความร้อนได้ไม่พอนั้นเอง ทำให้การทำความสะอาดฟิลเตอร์เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม
5. ท่อน้ำทิ้งอุดตัน
เมื่อท่อระบายน้ำอุดตันจนน้ำทิ้งไม่สามารถไหลออกได้ จะทำให้เกิดน้ำหยดหรือรั่วซึมบริเวณใต้เครื่องหรือท่อน้ำทิ้งได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ใกล้แอร์ได้
6. อายุการใช้งานของเครื่อง
แอร์ที่ผ่านการใช้งานมาแล้วหลายปี ชิ้นส่วนมักเสื่อมสภาพตามปกติ เช่น คอยล์ร้อน คอยล์เย็น ท่อน้ำทิ้ง หรือเซ็นเซอร์ ส่งผลให้สมรรถนะโดยรวมลดลง
วิธีแก้ปัญหาแอร์ไม่เย็นเบื้องต้น
แอร์ไม่เย็นแก้ยังไงดี? สำหรับเทคนิคการแก้ไขขั้นพื้นฐาน ทุกท่านสามารถตรวจเช็คและแก้ได้ด้วยตัวเองง่ายๆ แต่ถ้าในกรณีที่ปัญหานั้นซับซ้อนจนเกินไป ก็จำเป็นต้องให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วย
1. ตรวจสอบระดับน้ำยาแอร์
ถ้าตรวจพบแล้วว่าน้ำยาแอร์รั่วหรือต่ำกว่าปกติ ควรเรียกช่างแอร์ให้เข้ามาแก้ไขรอยรั่ว และเติมน้ำยาแอร์ให้ได้มาตรฐานตามที่กำหนด
2. ทำความสะอาดฟิลเตอร์แอร์เป็นประจำ
พยายามล้างแผ่นกรองทุก 2 – 4 สัปดาห์ เพื่อช่วยให้อากาศไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น ลดการสะสมของเชื้อโรคและฝุ่นละอองจากมลภาวะต่าง ๆ
3. เรียกช่างตรวจเช็คทุกปี
นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการตรวจเช็คประสิทธิภาพของแอร์เป็นประจำทุก ๆ ปี ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงและถนอมอายุการใช้งานของแอร์ได้อีกด้วย
4. ล้างคอยล์เย็นและคอยล์ร้อนประจำปี
ในแต่ละปี แต่ละบ้านควรล้างคอยล์เย็นและคอยล์ร้อนอย่างน้อย 1 ครั้ง เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแลกเปลี่ยนความร้อนให้กลับมาเป็นปกติ
สรุปปัญหาแอร์ไม่เย็น
แอร์ไม่เย็นไม่ใช่ปัญหาเล็ก ๆ อย่างที่เข้าใจ เพราะมันเกี่ยวข้องกับทั้งสุขภาพและค่าใช้จ่ายที่คุณคาดไม่ถึง หมั่นตรวจเช็คอาการ สาเหตุ และเข้าใจว่าแอร์ไม่เย็นควรแก้ยังไง อาจช่วยขยายอายุการใช้งานของแอร์ได้อีกหลายปี! อย่างไรก็ตาม ปัญหาเหล่านี้จะลดลงหากเลือกใช้แอร์ที่มีมาตรฐานอย่างแอร์แคเรียร์ เพราะนอกจากจะช่วยให้แอร์เย็นสบายเต็มที่แล้ว ยังเพิ่มคุณภาพชีวิตและลดค่าไฟในระยะยาวได้อีกด้วย