เคยสงสัยกันไหมว่าทั้ง ๆ ที่ตั้งอุณภูมิแอร์สูงกว่า 25 องศาแต่ทำไมอุณหภูมิภายในห้องนั้นยังรู้สึกเย็นอยู่ หรือบางครั้งเครื่องปรับอากาศในห้องของเรานั้นก็กลับไม่มีความเย็นออกมาเลย มีเพียงแต่ลมที่ปล่อยออกมา จนทำให้หลาย ๆ คนต่างมีความสงสัยว่าเอ๊ะแอร์ของเราเสียหรือเปล่า ? แต่อย่าพึ่งตกใจไป จงตั้งสติแล้วหยิบรีโมทแอร์ขึ้นมาเช็กดูว่ามีสัญลักษณ์อะไรบ้างปรากฏที่หน้าจอรีโมทแอร์ของคุณ และเจ้าแอร์ของคุณอยู่ในโหมดไหน แต่อันที่จริงเราต้องเปิดแอร์โหมดไหนถึงจะตรงกับความต้องการมากที่สุดและแอร์โหมดไหนเหมาะกับช่วงไหนบ้าง วันนี้แคเรียร์หาคำตอบมาให้แล้ว มาทำความรู้จักไปพร้อม ๆ กันกับบทความด้านล่างนี้
วิธีเช็กเครื่องปรับอากาศของคุณว่าอยู่ในโหมดใด
ก่อนอื่นจะต้องเช็กเสียก่อนว่าเจ้าแอร์ของคุณอยู่ในโหมดการทำงานไหนอยู่ ซึ่งวิธีการง่าย ๆ ให้กดปุ่มที่เขียนคำว่า “Mode” เมื่อเรากดปุ่มนี้ 1 ครั้งสัญลักษณ์บนหน้าจอก็จะเปลี่ยนตามไปทีละสัญลักษณ์ ซึ่งโดยปกติแล้วสัญลักษณ์ของโหมดต่าง ๆ จะมีทั้งหมด 4 สัญลักษณ์ ได้แก่ สัญลักษณ์รูปหิมะ สัญลักษณ์รูปหยดน้ำ สัญลักษณ์รูปใบพัดลม และสัญลักษณ์รูปตัว A ซึ่งสัญลักษณ์เหล่านี้จะแทนโหมดต่าง ๆ ของแอร์ ถ้าสัญลักษณ์ไหนขึ้นอยู่ก็หมายความว่าแอร์กำลังทำงานในโหมดนั้น ๆ อยู่วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับโหมดต่าง ๆ ของแอร์ที่จะทำให้เข้าใจการปรับแอร์ได้โดนใจเราที่สุด
Cool mode : ทำงานโดยการปรับอุณหภูมิห้องให้ตรงกับอุณหภูมิบนรีโมทแอร์ สามารถปรับความเร็วพัดลมได้ เหมาะกับอากาศร้อน ๆ
Dry mode : คล้าย Cool Mode ที่เพิ่มฟังก์ชั่นลดความชื้นในอากาศ เหมาะสำหรับที่ต้องการควบคุมความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับช่วงหน้าฝน
Fan mode : เครื่องปรับอากาศจะทำงานเฉพาะพัดลม ลมที่ออกมาจะเป็นลมในอุณหภูมิห้อง ไม่ทำความเย็น ช่วยให้อากาศในห้องหมุนเวียน เหมาะกับใช้ในหน้าหนาว
Auto mode : แอร์จะปรับอุณหภูมิและความเร็วของพัดลมตามเซ็นเซอร์ สลับทำงานไปโหมดอื่นอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมในห้อง
ความสำคัญของโหมดต่าง ๆ ในเครื่องปรับอากาศ
การเลือกใช้โหมดต่าง ๆ ในแอร์ถือเป็นเรื่องพื้นฐานที่เราต้องรู้ เพราะแต่ละโหมดก็มีความเหมาะสมในการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกโหมดที่ตรงกับความต้องการใช้งานก็จะทำให้เราได้รับความสบายในการใช้แอร์มากขึ้นอีกด้วย เพราะแอร์แต่ละโหมดจะเหมาะกับสภาพแวดล้อมและความต้องการที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังมีปุ่มอื่น ๆ สำหรับการทำงานของแอร์ที่เหนือขึ้นอีกขั้น อย่างเช่น Hi-Power และ X-IONIZER (PURE) ที่จะช่วยให้ห้องของคุณมีอากาศที่สะอาดและยิ่งฉ่ำยิ่งกว่าเดิม
เรามาทำความรู้จักกับ 2 ปุ่มพิเศษนี้ไปพร้อม ๆ กัน
Hi-Power : เป็นโหมดที่จะช่วยให้แอร์ของคุณปรับอุณหภูมิภายในห้องได้เร็วขึ้นด้วยการกระจายลมแรงอย่างทั่วถึง ให้เย็นเร็ว เย็นได้ทันทีโดยไม่ต้องรอนาน
X-IONIZER (PURE) : จะช่วยฟอกอากาศและช่วยกำจัดฝุ่นภายในห้อง ด้วยการปล่อยกระแสไฟฟ้าประจุลบ หรือ Negative Ion เพื่อดักจับฝุ่นที่มีขนาดเล็กเช่น PM 2.5 เชื้อโรค หรือแบคทีเรีย เพื่อไม่ให้ฟุ้งกระจาย สร้างอากาศที่สะอาดและบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น
แคเรียร์เข้าใจถึงความต้องการของทุกคนจึงได้พัฒนาแอร์ให้มีนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ชีวิตและการใช้งานมากที่สุด หากสนใจแอร์แคเรียร์สามารถเข้าไปหาซื้อได้ที่ คลิก