จะต้องทำอย่างไร เมื่อต้องเจอกับ “คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงาน” แคเรียร์จะพาไปดูกันว่าในกรณีที่คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงานคุณจะต้องทำอย่างไร และมีสาเหตุมาจากอะไร มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน
ทำความรู้จักคอมเพรสเซอร์แอร์
เพราะอากาศเมืองไทยที่ร้อนอบอ้าวจึงทำให้หลาย ๆ คนเลือกติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพื่อทำให้อากาศภายในบ้านเย็น และคอมเพรสเซอร์แอร์คือหัวใจสำคัญที่แอร์ทุกเครื่องต้องมี
คอมเพรสเซอร์จะช่วยระบายความร้อน ทำให้อุณหภูมิในห้องสมดุล แต่ถ้าเกิดพบว่าคอมเพรสแอร์ไม่ทํางานจะทำให้แอร์ไม่เย็น และส่งผลให้แอร์พัง เพื่อให้คุณสามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด การหาสาเหตุของปัญหาที่แท้จริงของคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงานนั้นมาจากสาเหตุใด จึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่ทุกคนห้ามมองข้ามเด็ดขาด สาเหตุที่ทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทํางานจะมีอะไรบ้าง สามารถเช็กลิสต์ได้ตามด้านล่างนี้
1. มีไฟรั่ว ไฟเกินกำหนด คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่สามารถทำงานได้
ปัญหาไฟรั่ว ไฟเกิน เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทํางานได้เช่นกัน เนื่องจากจะทำให้มอเตอร์ภายในคอมเพรสเซอร์แอร์มีความร้อนสูงอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้แอร์ไม่ทำงาน และเครื่องปรับอากาศพังในที่สุด นอกจากนี้มอเตอร์ที่มีความร้อนสูงจะทำให้เครื่องปรับอากาศกินไฟ ส่งผลให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นอีกด้วย
💡 Tips: สำหรับการแก้ไขปัญหาคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงานเนื่องจากไฟรั่ว หรือไฟเกินควรได้รับการซ่อมจากช่างที่มีความเชี่ยวชาญที่จะมีการจะตรวจสอบอาการคอมเพรสเซอร์แอร์เสียด้วยมิเตอร์วัดกระแส วัดระดับความร้อนของคอมเพรสเซอร์แอร์เพื่อรู้สาเหตุ และการแก้ไขได้อย่างตรงจุด
2. ปิดแอร์ผิดวิธี ทำให้แผงวงจรเสีย คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทํางาน
รู้หรือมั้ย? การปิดแอร์ที่ไม่ถูกต้องจะส่งผลต่อแผงวงจรเสีย หากคุณมีการปิดแอร์ผิดวิธีด้วยการสับคัตเอาท์ทันทีในขณะที่แอร์เปิดอยู่ โดยไม่มีการกดปิดแอร์ผ่านรีโมทจะทำให้ไฟกระชากจนเกิดไฟกระชาก และทำให้เกิดความร้อนสะสมภายในเครื่อง ซึ่งทำให้แผงวงจรเสียหาย คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงานได้เช่นกัน นอกจากนี้อุบัติเหตุที่ไม่สามารถควบคุมได้อย่าง ฝนสาด ไฟดับ หรือไฟตก ก็ทำให้แผงวงจรเสีย และส่งผลให้คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงานได้เช่นกัน
💡 Tips: ทุกครั้งที่มีการปิดแอร์จะต้องปิดแอร์ด้วยรีโมทก่อนที่จะสับคัตเอาท์เสมอ และควรมีการตรวจสอบคอมเพรสเซอร์อยู่เป็นประจำว่ามีความเสียหายกับตัวเครื่องหรือมั้ย เพื่อที่จะได้ทำการซ่อมแซมให้คอมเพรสเซอร์มีความพร้อมใช้งานตลอดเวลา มีความปลอดภัย ไม่กินไฟเกินกำหนด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ค่าไฟสูง หรือคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทํางานตามมาได้
3. สตาร์ตเตอร์เสียทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงาน
สตาร์ตเตอร์เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงาน ในกรณีที่สตาร์ตเตอร์มีความเสียหายจะส่งให้คอมเเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงานทันที โดยให้ตรวจสอบพร้อมสังเกตอาการของคอมเพรสเซอร์แอร์ว่ามีเสียงตอนเปิดเครื่องปรับอากาศ และดับลงในเวลาต่อมาหรือมั้ย รวมไปถึงความเย็นของแอร์ที่ลดลงจนเหลือแต่ลมหลังจากที่มีการเปิดแอร์
ทั้งนี้สตาร์ตเตอร์เสียอาจมีสาเหตุมาจากการพบว่ามีสายไฟหลุดจากการติดตั้งที่ไม่ดี หรือสายไฟขาดจากการที่โดนสัตว์กัดแทะ ก็ทำให้สตาร์ตเตอร์ไม่สามารถใช้งานได้
💡 Tips: เมื่อพบว่าสตาร์ตเตอร์แอร์ไม่ทำงาน ให้รีบเปลี่ยนสตาร์ตเตอร์แอร์โดยจำเป็นต้องใช้ผู้ที่มีความชำนาญ และมีประสบการณ์ในการเปลี่ยนสตาร์ตเตอร์ เพื่อความปลอดภัย และการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดทำให้สตาร์ตเตอร์กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
4. BTU ของแอร์ไม่เหมาะสมกับการใช้งาน
อีกหนึ่งอย่างที่สำคัญมาก ๆ สำหรับการเลือกเครื่องปรับอากาศนั้นคือ BTU แอร์ ที่ถือเป็นเรื่องแรก ๆ ที่ทุกคนควรรู้จัก และทำความเข้าใจ เพื่อให้ได้แอร์ที่เหมาะกับการใช้งานของห้องคุณมากที่สุด เพราะการเลือกใช้แอร์และคอมเพรสเซอร์ที่ไม่สมดุลกับขนาดห้อง และปริมาณคนที่อยู่ภายในห้อง จะส่งผลต่อการทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทํางานได้ ควรเลือก BTU แอร์ให้เหมาะกับสมกับห้อง เพื่อให้เครื่องปรับอากาศไม่ทำงานจนเกินไป
การเลือก BTU แอร์ให้เหมาะกับห้องจะต้องพิจารณาจากประเภทห้อง ขนาดห้อง ตำแหน่งทิศทางของห้อง การเข้าถึงของแสงแดด จำนวนผู้พักอาศัย จำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้อง และโดยปกติแล้ว เครื่องปรับอากาศจะมีหลายขนาดตั้งแต่ 9,000 BTU – 36,000 BTU และในแต่ละขนาดจะเหมาะสมกับพื้นที่ของแต่ละห้องที่มีความแตกต่างกันออกไป อาทิ
- ขนาด 9,000 BTU – 21,000 BTU เหมาะกับห้องที่มีขนาดเล็กถึงปานกลาง เช่น คอนโด หรือห้องที่มีความร้อนปานกลางถึงมาก
- ขนาด 21,000 BTU – 30,000 BTU เหมาะกับห้องที่มีพื้นที่ห้องขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ มีพื้นที่ในการใช้สอย หรือห้องที่มีความร้อนปานกลางมาก เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องโถง
- ขนาด 30,000 BTU – 36,000 BTU เหมาะกับห้องที่มีขนาดใหญ่ มีเฟอร์นิเจอร์ หรืออุปกรณ์เครื่องใช้ เช่น ร้านกาแฟ ร้านอาหาร สำนักงาน เป็นต้น
💡 Tips: เลือก BTU ผิด ชีวิตเปลี่ยน การเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีค่า BTU ที่ต่ำเกินไป จะส่งผลต่อคอมเพรสเซอร์แอร์ รวมไปถึงการทำงานของเครื่องปรับอากาศที่ต้องทำงานหนักเกินไป ส่งผลให้สิ้นเปลืองพลังงาน และทำให้เครื่องปรับอากาศของคุณมีอายุการใช้งานที่สั้นลงอีกด้วย สามารถคำนวณ BTU ให้เหมาะสมกับการใช้งานได้ง่าย ๆ คลิก
ทั้งนี้ไม่ว่าคุณต้องเจอปัญหาคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทํางานแบบไหน สิ่งที่ควรทำคือเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบเพื่อทำการซ่อมแซมปัญหา เนื่องจากเครื่องปรับอากาศจะมีระบบไฟฟ้าที่ไม่เหมือนระบบทั่วไปการซ่อมด้วยวิธีที่ผิด และใช้ช่างที่ไม่มีประสบการณ์จะทำให้เกิดความผิดพลาด ทำให้แอร์มีปัญหา หรือเสียไม่สามารถใช้งานได้
หากคุณต้องเจอกับปัญหาคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทํางาน แคเรียร์พร้อมให้บริการ Carrier Warranty
บริการกลังการขายทั้ง 3 ช่องทาง
- แจ้งซ่อมผ่านคอลเซ็นเตอร์ 1454 ทุกวันจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 8.30 น. ถึง 17.30 น.
- แจ้งซ่อมผ่านระบบออนไลน์ ที่นี่
- แจ้งซ่อมผ่าน LINE@ : @CARRIERCARE ทุกวันจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ถึง 17.30 น.