การเลือกเครื่องปรับอากาศขึ้นอยู่กับรูปแบบห้องหรือพื้นที่อาศัย แต่ในปัจจุบันสภาพอากาศค่อนข้างร้อนกว่าค่าตัวแปรที่ตั้งไว้ แคเรียร์แนะนำว่าควรใช้ค่าตัวแปร 1000 x ตารางเมตรของห้อง และเมื่อได้ค่าBTUมาแล้ว คุณสามารถเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีค่าBTU สูง-ต่ำได้นิดหน่อยแต่ไม่ควรเกิน1000 BTU เพื่อให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
สูตรการคำนวณค่าBTU
BTU = ความกว้าง(เมตร) x ความยาว(เมตร) x ค่าตัวแปร
ทำไมต้องใช้ตัวแปรเข้ามาในการคำนวณ? ก็เพื่อนำไปวัดหาค่าBTU สำหรับการเลือกติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ซึ่งตัวแปรก็จะมีค่าที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง ระดับความร้อนที่ห้องหรือพื้นที่อาศัยจะได้รับจากภายนอก จำนวนคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้น ความถี่การเข้า-ออก/เปิด-ปิดของประตู และรวมไปถึงประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าในพื้นที่นั้นด้วย ซึ่งโดยประมาณค่าตัวแปรของแต่ห้องมีดังนี้
ค่าตัวแปร
800-900 : สำหรับห้องนอน หรือห้องที่มีความร้อนน้อยโดนแดดเล็กน้อย
900-1,000 : สำหรับห้องรับแขก หรือห้องที่มีความร้อนปลานกลาง – มาก
1000-1200 : สำหรับห้องออกกำลังกาย ห้องทำงาน หรือห้องที่มีความร้อนมาก
1200 หรือมากกว่า : สำหรับร้านค้า ร้านอาหาร หรือห้องที่มีการเปิด-ปิดประตูบ่อย สำนักงาน
แต่เพื่อความสะดวกและง่ายขึ้นในการคำนวณค่า BTU ทางCarrier มีระบบคำนวณค่าBTUอัตโนมัติให้บริการ เพียงแค่ใส่ความกว้างและความยาวของพื้นที่ห้องทางระบบของแคเรียร์ก็จะคำนวณค่าBTUที่เหมาะสมกับพื้นที่ห้องของคุณในทันที
ตัวอย่างการคำนวณ
กว้าง 3.5 ม. x ยาว 3.7 ม. x ค่าตัวแปร 800 (ห้องที่โดนแดดน้อย) = 10,360 BTU
ปัยจัยที่ต้องคำนึงควบคู่ไปกับการคำนวณค่า BTU
1. ขนาดและเลย์เอาต์ของห้อง
แม้ว่าการคำนวณ BTU จะเป็นที่จำเป็น แต่การพิจารณาขนาดและเลย์เอาต์ของห้องก็เป็นสิ่งสำคัญ ปัจจัยต่างๆ เช่น ความสูงของเพดาน ฉนวนในห้อง จำนวนหน้าต่าง และการจัดวางโดยรวมอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำความเย็น ห้องที่มีเพดานสูงหรือหน้าต่างบานใหญ่อาจต้องใช้ความสามารถในการทำความเย็นเพิ่มเติมเพื่อชดเชยความร้อนที่ได้รับ
2. สภาพภูมิอากาศ
สภาพภูมิอากาศที่คุณอาศัยอยู่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดข้อกำหนดในการทำความเย็น หากคุณอาศัยอยู่ในบริเวณที่ร้อนชื้น คุณอาจต้องใช้แอร์ที่มีค่า BTU สูงกว่าเพื่อรับมือกับความร้อนจัด ในทางกลับกัน ในสภาพอากาศที่เย็นกว่า ค่า BTU ที่ต่ำกว่าก็อาจเพียงพอแล้ว การทำความเข้าใจสภาพอากาศในท้องถิ่นของคุณ และผลกระทบต่อความต้องการในการทำความเย็นถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อไม่เป็นการสิ้นเปลืองพลังงานและอุณหภูมิที่ความเย็นสบาย
3. ทิศทางแสงแดดและตำแหน่งของห้อง
ปริมาณแสงแดดที่ห้องของคุณได้รับตลอดทั้งวันส่งผลต่อภาระการทำความเย็น ห้องที่ได้รับแสงแดดโดยตรงจะได้รับความร้อนสูงกว่าและต้องการความสามารถในการทำความเย็นที่มากขึ้น พิจารณาการวางแนวของหน้าต่างและตัวเลือกการบังแดด เช่น ผ้าม่านหรือมู่ลี่ เพื่อลดผลกระทบของแสงแดดต่อความต้องการในการทำความเย็น
4. ฉนวนกันความร้อน
ฉนวนที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาสภาพแวดล้อมภายในอาคารที่สะดวกสบายและรับประกันประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน ห้องที่มีฉนวนอย่างดีลดการถ่ายเทความร้อน ลดภาระงานของเครื่องปรับอากาศ ประเมินคุณภาพฉนวนในพื้นที่ของคุณ รวมถึงผนัง หน้าต่าง และประตู การลงทุนปรับปรุงฉนวนอาจให้ประโยชน์ในระยะยาว โดยคุณสามารถเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีพิกัด BTU ต่ำกว่าได้
5. จำนวนคนและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สร้างความร้อน
จำนวนคนที่อาศัยในห้องและกิจกรรมของผู้อาศัยมีอิทธิพลต่อข้อกำหนดในการทำความเย็น ห้องที่มีผู้อาศัยมากกว่าหรืออุปกรณ์สร้างความร้อน เช่น คอมพิวเตอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า จะต้องมีความสามารถในการทำความเย็นเพิ่มเติม นอกจากนี้ ให้พิจารณาว่าจะใช้ห้องบ่อยแค่ไหนและเพื่อวัตถุประสงค์อะไร ห้องที่มีการใช้งานเป็นครั้งคราวอาจไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศที่มีความจุสูง
6. ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
นอกเหนือจากการพิจารณาความสามารถในการทำความเย็นแล้ว ยังจำเป็นต้องมองหาเครื่องปรับอากาศที่ประหยัดพลังงานอีกด้วย รุ่นที่ได้รับการจัดอันดับ Energy Star ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้พลังงานน้อยลงในขณะที่ให้ประสิทธิภาพการระบายความร้อนสูงสุด การเลือกหน่วยประหยัดพลังงานสามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้
9,000 BTU ขนาดห้อง 9-11 ตารางเมตร
12,000 BTU ขนาดห้อง 12-15 ตารางเมตร
15,000 BTU ขนาดห้อง 16-18 ตารางเมตร
18,000 BTU ขนาดห้อง 19-23 ตารางเมตร
24,000 BTU ขนาดห้อง 24-30 ตารางเมตร
*ขนาด BTU เปลี่ยนแปลงตามความร้อนของห้อง
การคำนวณค่า BTU เครื่องปรับอากาศให้พอดีกับพื้นที่ของห้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ตอบโจทย์ในการใช้งานอย่างเหมาะสม นอกจากนี้เราไม่ควรละเลยในเรื่องขององค์ประกอบภายในห้อง เช่น ทิศทางของแสง จำนวนของหน้าต่าง ความสูงของฝ้าเพดาน เป็นต้น ปัจจัยเหล่านี้จะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถปล่อยความเย็นได้เต็มพื้นที่ในระยะเวลาที่ไม่นาน ไม่สิ้นเปลืองพลังงาน และยังประหยัดค่าไฟได้อีกด้วย หากคุณกำลังมองหาเครื่องปรับอากาศดี ๆ ทางแคเรียร์มีเครื่องปรับอากาศหลายรุ่น ที่สามารถตอบโจทย์กับการใช้งานของคุณ ทั้งประหยัดค่าไฟและมาพร้อมฟังชั่นที่ใช้ง่าย ดูแลไม่ยุ่งยาก สามารถศึกษาข้อมูลของเครื่องปรับอากาศแคเรียร์เพิ่มเติมได้ที่ https://carrierthailand.com/
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า