ทำแบบนี้มีแต่พัง! รวมพฤติกรรมทำให้แอร์พังเร็วกว่าเดิม
เครื่องปรับอากาศเรียกได้ว่าเป็นไอเทมประจำบ้านสำหรับคนไทยเลยก็ว่าได้ ดังนั้นการซื้อเครื่องปรับอากาศหนึ่งครั้งสำหรับคนเมืองร้อนแบบเราๆ จึงเป็นเรื่องใหญ่และถือเป็นการลงทุนระยะยาว เพราะแอร์หนึ่งตัวจะต้องติดอยู่กับห้องเราอีกหลายปี แต่ถึงอย่างนั้นก็มีเรื่องให้แอร์พังเร็วได้! วันนี้แคเรียร์จึงขอรวมพฤติกรรมที่อาจทำให้เครื่องปรับอากาศสุดที่รักของคุณพังเร็วกว่าที่ควรมาฝากกัน
- ติดแอร์ที่มี BTU ต่ำกว่าขนาดห้อง
หลายคนอาจจะรู้กันอยู่แล้วว่า BTU หรือ British Thermal Unit คือหน่วยวัดค่าความเย็นของแอร์ โดยค่า BTU ที่สูงจะหมายถึงประสิทธิภาพในการทำความเย็นที่สูงขึ้นและศักยภาพในการการกระจายความเย็นที่กว้างขึ้นด้วย ซึ่งหากเราเลือกใช้แอร์ที่มี BTU ต่ำ กับห้องขนาดใหญ่ก็จะส่งผลให้เครื่องประอากาศของเราทำงานหนักและพังเร็วกว่าที่ควรจะเป็น
- ตั้งตัวเครื่องกับคอมเพรสเซอร์ห่างกันมาก ๆ
เครื่องปรับอากาศทำความเย็นโดยให้คอมเพรสเซอร์มีหน้าที่อัดแรงดันเพื่อส่งน้ำยาแอร์ผ่านท่อแอร์ไปที่ตัวเครื่องที่อยู่ในบ้าน ดังนั้นหากตัวเครื่องกับคอมเพรสเซอร์อยู่ห่างกันมาก ก็จะทำให้คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อให้มีแรงดันมากพอในการส่งน้ำยาแอร์ผ่านท่อแอร์ยาว ๆ ไปให้ถึงตัวเครื่อง ส่งผลให้แอร์เย็นช้าและทำงานหนักจนเป็นต้นเหตุของอาการแอร์เย็นช้า ค่าไฟสูง และคอมเพรสเซอร์เสื่อมสภาพไวนั่นเอง
นอกจากนี้เพื่อให้เครื่องปรับอากาศมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ผู้ใช้ควรตั้งคอมเพรสเซอร์ให้ห่างจากผนังบ้านประมาณ 10 ซม. และไม่ควรวางของบังหน้าคอมเพรสเซอร์ในระยะประมาณ 60 – 80 ซม. นอกจากนี้ยังไม่ควรวางในตำแหน่งโดนฝนสาดบ่อยๆ หรือพื้นที่ที่โดนแดดส่องโดยตรงตลอดทั้งวัน ในกรณีที่ต้องวางบนพื้นระเบียงควรติดตั้งให้สูงกว่าพื้นประมาณ 10 ซม. เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง
- ตากผ้าในห้องแอร์
หนึ่งในหน้าที่ของเครื่องปรับอากาศคือการกำจัดความชื้นเพื่อทำความเย็น ดังนั้นเครื่องปรับอากาศจึงต้องทำงานหนักขึ้นหากถูกติดตั้งในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง ซึ่งการตากผ้าในห้องเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดค่าความชื้นสูงได้ และปริมาณความชื้นนี้ก็อาจจะส่งผลให้แอร์ทำงานหนักและเสื่อมสภาพได้เร็วในอนาคตนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นที่ไม่ควรทำให้ห้องแอร์อีก เช่น การปลูกต้นไม้, การรับประทานอาหารร้อน ๆ หรือ มีการเลี้ยงปลาในตู้ เป็นต้น
- ไม่ล้างแอร์เป็นเวลานาน
การไม่ล้างแอร์เป็นเวลานานๆ จะให้ฝุ่นและสิ่งสกปรกเข้าไปทำให้อุดตันบริเวณพัดลมแอร์ ท่อแอร์ และส่วนต่าง ๆ ของคอมเพรสเซอร์ จนทำให้เครื่องต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อปล่อยลมเย็นออกมา หรืออาจไม่สามารถเป่าลมเย็นออกมาได้เลย
- เร่งแอร์ในอุณหภูมิที่ต่ำจนเกินไป
การชอบนอนในห้องที่แอร์ฉ่ำ ๆ นั้นไม่ใช่เรื่องผิด แต่ผู้ใช้ไม่ควรจะเปิดแอร์แล้วเร่งให้อุณหภูมิลดลงต่ำสุดในทันที เพราะอาจทำให้เครื่องต้องเร่งกำลังมากเกินไป เต็มแรงเกินไปจนทำให้ประสิทธิภาพลดลงได้ง่าย แถมยังเปลืองไฟโดยใช่เหตุ ดังนั้นทางทีดีควรจะให้เปิดเครื่องปรับอากาศให้อยู่ในอุณหภูมิประมาณ 25-26 องศา เพื่อประหยัดพลังงานและถนอมแอร์ของคุณด้วย
สำหรับใครที่เบื่อเรื่องแอร์พัง และกำลังมองหาแอร์สายทนเครื่องใหม่อยู่ อย่าลืมมองหาแอร์แคเรียร์ Copper 11 เครื่องปรับอากาศสายทนที่มีคอยล์ทองแดง ทนทานต่อการกัดกร่อนในทุกสภาวะอากาศ คุ้มในทุกฤดูกาลด้วยการรับประกันคอมเพรสเซอร์ยาวนานถึง 10 ปี และรับประกันอะไหล่ถึง 5 ปี พร้อม 12 ฟีเจอร์สุดครบครัน เพิ่มความล้ำด้วย Control with Technologies สั่งงานได้ง่ายผ่านแอพลิเคชัน Carrier In The Air ได้ทุกที่ ให้ทุกการพักผ่อนของคุณเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด และที่คุ้มที่สุด
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://carrierthailand.com/air-conditioner/
ที่มา: https://www.deepromair.com/article/15/5-สาเหตุที่ทำให้แอร์บ้านพังไว-กินไฟมากกว่าปกติ