จะซื้อแอร์ใหม่ทั้งทีนอกจากความเย็น ความทนทานแล้ว อีกอย่างที่จะมองข้ามไปไม่ได้ก็คือความประหยัด ความคุ้มค่านั่นเองเพราะแอร์เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราต่างใช้งานกันแทบทุกวัน แถมเปิดแต่ละครั้งก็ใช้งานติดต่อกันหลาย ๆ ชั่วโมง แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าแอร์ของเราประหยัดค่าไฟจริง ๆ แรกเริ่มก่อนซื้อเราก็มักจะดูกันที่ขนาด BTU ฉลากประหยัดไฟ 5 ดาว ว่าเป็นเบอร์อะไร รวมไปถึงประเภทของแอร์ว่าเป็น Fixed Speed หรือ Inverter ที่ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดแบบสุด ๆ โดยแอร์ Inverter สามารถที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 สามดาว สามารถประหยัดกว่าแอร์ธรรมดาฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ได้ถึง 6,000 บาทเลยนะ
แล้วเราเชื่อได้แค่ไหนว่าแอร์ Inverter ที่การันตีด้วยฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 สามดาวประหยัดจริง ๆ วันนี้แคเรียร์จะมาพิสูจน์ให้ทุกคนรู้กัน! ด้วยสูตรคำนวณค่าไฟฟ้าของเครื่องปรับอากาศดังนี้
ค่า BTU ÷ ค่า SEER ÷ 1000 x ชั่วโมงการใช้งาน x จำนวนวันใช้งาน x ค่าไฟฟ้าต่อหน่วย
ตัวอย่างการคิดค่าไฟ
ติดแอร์ XInverter Plus (42TVAB018-W-I) ขนาด 18,000 BTU โดยเปิดแอร์เฉลี่ยแล้ววันละ 8 ชั่วโมง ทั้งปี ซึ่งแอร์รุ่นนี้เป็นฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 สามดาว ที่มีค่า SEER อยู่ที่ 22.50 และค่าไฟต่อหน่วยอยู่ที่ 3.96 บาท
(ค่า BTU 18,000 btu. ÷ ค่า SEER 22.50 ÷ 1000) x 8 ชั่วโมงต่อวัน x 365 วัน x ค่าไฟฟ้า 3.96 บาท/หน่วย = ค่าไฟฟ้าต่อปี 9,251 บาท
เมื่อเทียบกับแอร์ Fixed Speed รุ่นอื่นที่มีค่าไฟต่อปีอยู่ที่ 15,486 บาท จึงทำให้ค่าไฟจาก XInverter Plus ถูกกว่าถึง 6,235 บาท/ปี นั่นเอง*
นอกจากความคุ้มค่าของค่าไฟที่ประหยัดกว่าแล้ว XInverter Plus ยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่โดดเด่นไม่ว่าจะเป็นรูปทรงสุดโมเดิร์น สัมผัส Hairline Texture ที่แตกต่างแต่ลงตัว และยังมีถึง 5 สีที่ให้คุณเลือกสีที่ชอบ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ได้ตามต้องการ นอกจากนี้อัดแน่นไปด้วย 15 ฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ทั้งความเย็น ความทนทาน และเทคโนโลยีสำหรับการใช้งานที่สะดวกสบายมากขึ้นกว่าที่เคย
*หมายเหตุ ข้อมูลข้างต้นจะเป็นข้อมูลจากฉลากเบอร์5 และการเปรียบเทียบกับสินค้ารุ่น
FIXED SPEED 42TSGS018 กับ 42TVAB018-W-I
ค่าไฟฟ้าต่อปี = 15,486 – 9,251 = 6,235