ติดต่อเรา

แต่งห้องดูหนัง มุมพักผ่อนมุมใหม่ของทุกคนในบ้าน

เดี๋ยวนี้จะดูหนังทั้งทีก็ไม่ต้องไปถึงโรงหนังก็สามารถดูหนังได้ที่บ้าน ผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิงออนไลน์ต่าง ๆ แถมตัวเลือกก็ยังมีหลากหลายให้เลือกได้มากกว่า แต่จะดูธรรมดา ๆ ก็คงจะไม่ได้ คนมีสไตล์อย่างเรา ๆ ก็ต้องสร้างบรรยากาศให้การดูหนังกันหน่อย ไปส่อง 2 ไอเดีย 2 สไตล์ สำหรับแต่งห้องไว้นอนดูหนังเพลิน ๆ เหมือนอยู่ในโรงหนังกันดีกว่า ไอเดียแต่งห้องสำหรับดูหนังสไตล์มินิมอล และแสง Warm Light เริ่มกันที่การตกแต่งสไตล์มินิมอล ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เป็นสไตล์แต่งห้องที่จะเน้นที่ความเรียบง่าย ดูสบายตา ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เหมาะสำหรับกิจกรรมชิล ๆ อย่างการดูหนัง เพิ่มเติมด้วยการใช้ไฟ Warm Light จะทำให้ห้องสลัวขึ้น และรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ดูหนังเพลินสุด ๆ เมื่อห้องสวย บรรยากาศพร้อมแล้ว ก็ต้องมีอากาศดี ๆ แอร์เย็นฉ่ำ เพิ่มความฟินในการดูหนังด้วยแอร์แคเรียร์ Color Smart กับดีไซน์ทรงโค้งมน เพิ่มความมินิมอลให้ห้องมากขึ้น ที่มาพร้อมหน้ากากผ้า Magic Color สามารถถอดเปลี่ยนได้ตามต้องการ ให้ห้องคุณมินิมอลอย่างที่ใจต้องการ ไอเดียแต่งห้องสำหรับดูหนังสไตล์เรียบหรู การแต่งห้องสไตล์นี้จะยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในโรงหนังจริง ๆ […]

เลือกแอร์ให้ประหยัดไฟ ต้องดูที่อะไรบ้าง?

ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนแสนจะร้อนของประเทศเรา เชื่อว่าแทบทุกบ้านจะต้องมีแอร์ที่เป็นตัวช่วยสำคัญเพื่อคลายความร้อน ในทุกครั้งที่เจออากาศร้อน ๆ ก็จะคิดถึงแอร์เป็นอย่างแรก ๆ แต่ถ้าหากเปิดแอร์ผิดวิธี หรือเลือกใช้แอร์ที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งานก็อาจทำให้เปลืองไฟเป็นอย่างมาก นำมาซึ่งสาเหตุของค่าไฟบ้านที่อาจแพงขึ้นได้ แคเรียร์ขอแนะนำเคล็ดไม่ลับในการเลือกแอร์ที่ช่วยให้คุณประหยัดไฟ จะต้องดูที่อะไรบ้างนะ? 1. เลือกประเภทของแอร์ให้เหมาะสมกับพื้นที่ นอกจากแอร์ที่เราคุ้นตากันอยู่ในทุกวันนี้นั้น ยังมีแอร์อีกหลายรูปแบบที่แตกต่างกันตามประเภทของการใช้งาน ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 4 รูปแบบ ดังนี้ – แอร์ติดผนัง (Wall Type)เป็นแอร์ยอดนิยม ที่เราคุ้นตากันดี ด้วยดีไซน์ทันสมัย กะทัดรัด มีให้เลือกหลายขนาด เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อย เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือคอนโด – แอร์แขวนใต้ฝ้า (Ceiling Type)เป็นแอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าแอร์ติดผนัง ประสิทธิภาพกระจายลมได้ดีกว่า แต่จะนิยมยึดติดกับเพดาน หรือฝ้า เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ ๆ เช่น Office สำนักงาน ห้องเรียน หรือโรงงาน – แอร์ฝังเพดาน (Duct Connected Type)เป็นแอร์แบบท่อลมเปลือยเดินระบบบนฝ้า และจะถูกต่อออกมาตามช่องที่เจาะเอาไว้เพื่อปล่อยลม ตัวเครื่องและท่อแอร์จะฝังอยู่ในกำแพงหรือฝ้า ทำให้มองไม่เห็นตัวท่อ ไม่รบกวนพื้นที่ใช้สอย […]

เลือกตำแหน่งติดตั้งแอร์ในห้องนอนอย่างไรให้เหมาะสม?

การเลือกตำแหน่งติดตั้งเครื่องปรับอากาศในห้องนอนเป็นเรื่องที่สำคัญมากอย่างหนึ่ง เพราะไม่เพียงแต่จะเกี่ยวกับอากาศที่เย็นสบายภายในห้องเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสุขภาพและค่าใช้จ่ายที่จะตามมาอีกด้วย หากเราเลือกตำแหน่งติดตั้งแอร์ได้อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้ห้องนอนของเราเย็นฉ่ำอย่างสม่ำเสมอและทั่วถึง อีกทั้งยังเป็นการลดปัญหาด้านสุขภาพและช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี วันนี้แคเรียร์จึงอยากพาทุกคนมารู้จักกับ แนวทางการเลือกตำแหน่งติดตั้งแอร์ให้เหมาะสมกับห้องนอนของเรามากที่สุด เพื่อคุณภาพที่ดีของการพักผ่อนหย่อนใจในทุกวัน 1. เลือกติดตั้งตามขนาดของห้อง การติดตั้งแอร์นั้นควรคำนึงถึงขนาดและรูปทรงของห้อง เพื่อให้สัมพันธ์กับทิศทางการกระจายลมของแอร์ แน่นอนว่าห้องของแต่ละคนมีขนาดและสัดส่วนที่แตกต่างกันออกไป วิธีการเลือกตำแหน่งเบื้องต้น ให้ดูว่าจุดไหนของห้องสามารถมองเห็นส่วนต่าง ๆ ได้อย่างทั่วถึง ซึ่งจุดนั้นจะบ่งบอกถึงความสามารถในการกระจายลมของแอร์ เช่น หากห้องมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ควรติดแอร์ในตำแหน่งแนวยาว จะทำให้ลมจากแอร์กระจายความเย็นได้ทั่วถึงกว่าตำแหน่งแนวขวาง และไม่ควรติดแอร์ไว้ในมุมที่อับ หรือมุมขวางของห้อง เพราะแอร์จะกระจายความเย็นได้แค่จุดใดจุดหนึ่งเท่านั้น ทำให้อุณหภูมิภายในห้องเย็นไม่สม่ำเสมอ  อีกทั้งการเลือก BTU แอร์ให้เหมาะสมกับขนาดของห้องก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะหากเลือกแอร์ที่มีขนาด BTU น้อยกว่าขนาดห้องก็จะทำให้การกระจายความเย็นไม่ทั่วถึง แต่หากเลือกขนาด BTU มากกว่าห้องจะทำให้เปลืองไฟโดยเปล่าประโยนช์ ดังนั้น ถ้าอยากได้แอร์เย็นกระจายทั่วห้องแบบไม่ต้องเปลืองไฟ อย่าลืมคำนึกถึงขนาดของห้องให้เหมาะสมกับตำแหน่งติดตั้งแอร์และการเลือกขนาดของ BTU แอร์ด้วยนะ 2. ไม่ควรติดตั้งแอร์ไว้เหนือประตู  การติดตั้งแอร์ไว้เหนือประตูของห้อง จะทำให้ความเย็นไหลออกจากห้องได้ง่าย เพราะบริเวณประตูมีการเปิดเข้า – เปิดออกบ่อยครั้ง อากาศหรือความเย็นที่ลดลงบ่อย ส่งผลให้อุณหภูมิภายในห้องเย็นไม่สม่ำเสมอ และแอร์ต้องทำงานหนักมากขึ้น ฉะนั้น เพื่อรักษาอุณหภูมิภายในห้องให้เย็นอยู่ตลอดเวลา และไม่เป็นการเปลืองไฟโดยใช่เหตุ จึงไม่ควรติดตั้งแอร์ไว้เหนือประตูของห้องนอน […]

รวม 5 วิธีหนีฝุ่น ช่วยให้ห้องสะอาด หายใจสะดวก

ปัจจุบันมีปัจจัยมากมายที่ทำให้เกิดฝุ่นละอองและมลพิษในห้องของเรา ทั้งฝุ่นละอองที่อยู่ในอากาศอย่าง PM 2.5 หรือไรฝุ่นที่เกิดจากเศษผ้า เศษผม หรือเครื่องเแต่งกาย ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อระบบหายใจ แต่หากเรารู้วิธีดูแลและจัดการฝุ่นละอองเหล่านี้อย่างถูกต้อง ห้องของเราก็จะสะอาด หายใจสะดวก เหมาะกับการพักผ่อนมากยิ่งขึ้น เปลี่ยนผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนช่วยได้ ฝุ่นต่าง ๆ ในห้องนอนมักจะเกิดจากเศษผ้า และมูลของไรฝุ่นหรือแบคทีเรีย ซึ่งการผลัดเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนสัปดาห์ละ 1 ครั้งและซักผ้าห่มเป็นประจำทุก 1 เดือน จะช่วยลดปริมาณไรฝุ่นที่อาศัยอยู่ในเครื่องนอน รวมถึงเพิ่มความสะอาดให้ห้องของเราได้มากขึ้น เริ่มต้นจากการดูดฝุ่น การดูดฝุ่นเป็นวิธีพื้นฐานในการทำความสะอาดห้อง โดยความถี่ที่เหมาะสมในการดูดฝุ่นคือประมาณ 2-3 วันต่อสัปดาห์และควรทำเป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังจากการปัดกวาด เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกบางอย่างที่ตกค้างจากการทำความสะอาดอื่นๆ การดูดฝุ่นจึงเป็นเหมือนการเก็บรายละเอียดเพื่อให้ห้องของเราสะอาดขึ้นไปอีกระดับ กันฝุ่นด้วยการหมั่นปิดประตูและหน้าต่าง ช่วงนี้ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในตัวเมืองต่างๆ มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากหลายๆ คนก็ออกมาทำงานใช้รถใช้ถนนกันเป็นปกติแล้ว อีกทั้งโรงงานและกำลังการผลิตต่างๆ ก็กลับมาทำงานแบบเต็มกำลังทำให้มีฝุ่นละอองและมลพิษในอากาศมากขึ้น เราจึงไม่ควรที่จะเปิดประตูหรือหน้าต่างทิ้งไว้เป็นเวลานาน แต่อย่างไรก็ตามอากาศที่ถ่ายเทยังจำเป็นกับการพักผ่อนในห้องเสมอ โดยในช่วงที่มีฝุ่นละอองหนาแน่นอย่างหน้าหนาวและหน้าร้อนให้เปิดหน้าต่างระบายอากาศไม่เกินวันละ 3 – 4 ชั่วโมง โดยประมาณ และควรเปิดในเวลากลางคืนที่ถนนไม่ค่อยมีรถสัญจร แต่สำหรับวันที่มีฝนตกนั้นสามารถเปิดหน้าต่างระบายอากาศหลังฝนตกได้ตามปกติ ปลูกต้นไม้ฟอกอากาศ ต้นไม้ฟอกอากาศเป็นอีกหนึ่งทางออกของปัญหานี้ เพราะเราไม่สามารถป้องกันมลพิษที่จะลอยเข้ามาในห้องได้ร้อยเปอร์เซ็น การปลูกต้นไม้ฟอกอากาศ อาธิ […]

5 เทคนิคแต่งบ้านสไตล์มินิมอล น่ารักเหมือนอยู่ญี่ปุ่น!

บ้านสไตล์มินิมอล (Minimalist Style) คือบ้านที่ตกแต่งโดยเน้นหลักการ Less is more หรือเน้นการตกแต่งหรือเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่าย สะอาด สบายตา แต่มีประโยชน์หลากหลายสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบถ้วน การตกแต่งบ้านสไตล์นี้ได้รับความนิยมมากๆ ในประเทศญี่ปุ่น เพราะเป็นการตกแต่งที่ทำให้บ้านดูกว้างขึ้น เหมาะกับบ้านขนาดเล็กพื้นที่ใช้สอยน้อย  ด้วยสีสันสบายตา ให้ความรู้สึกสะอาด สงบ และการจัดวางที่เรียบร้อยน่ารักเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมือง ทำให้บ้านสไตล์มินิมอลกลายเป็นสไตล์ยอดฮิต ที่วันนี้เราอยากเอา 5 เทคนิคแต่งบ้านสไตล์มินิมอลดี ๆ มาฝากคนทำบ้านทุกคนกัน 1. เก็บของที่ชอบ แมทช์ของที่ใช่ ด้วยความที่บ้านสไตล์มินิมอลนั้นเน้นความเรียบง่ายและสะอาด ตามหลักการ Less is more ดังนั้นก่อนจะเริ่มตกแต่งบ้านสิ่งแรกที่ต้องทำก็คือการเคลียร์พื้นที่ เก็บข้าวของต่างๆ ให้เรียบร้อย โดยระหว่างการเก็บของให้เราแยกของที่จะใช้ในการตกแต่งบ้านไว้ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเป็นของที่เราต้องการจะเก็บเข้าตู้เพื่อความเรียบร้อยและอีกส่วนคือของที่เราต้องการจะทิ้งหรือบริจาค เพื่อให้ง่ายต่อการจัดวางมากขึ้น 2. ใช้สีเอิร์ธโทนและสีขาวเป็นหลัก บ้านสไตล์มินิมอลนั้นเน้นเรื่องความสะอาด สงบ และสบายตา ดังนั้นสีที่ใช้ในการแต่งบ้านหลักๆ จะเป็นสีขาว ตัดด้วยสีเอิร์ธโทน อย่างสีเหลือง สีน้ำตาล สีเทา และสีครีม เช่น การทาผนังด้วยสีขาวหรือครีม แล้วตัดด้วยเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งจากไม้เรียบๆ ก็จะช่วยเพิ่มความเก๋ […]

ชวนมาใช้ 3 ฟีเจอร์น่าลองบนแอร์แคเรียร์

นวัตกรรมคือสิ่งที่ช่วยให้เราสะดวกสบายและมีความสุขมากขึ้น เหมือนกับที่เครื่องปรับอากาศแคเรียร์พยายามคิดค้นสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้บ้านของคุณกลายเป็นสถานที่แห่งความสุข พร้อมให้คุณและคนสำคัญได้รับการพักผ่อนที่มีคุณภาพอยู่เสมอ วันนี้เราจึงอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักและลองใช้ 3 ฟีเจอร์ทรงพลังนวัตกรรมบนแอร์แคเรียร์ XInverter Plus และ แอร์แคเรียร์ Color Smart 2 แอร์ยอดนิยมของเรากัน X-IONIZER   ฟีเจอร์น่าลองฟีเจอร์แรกที่อยากให้ทุกคนได้รู้จักก็คือ ระบบ X-IONIZER ฟีเจอร์ที่จะช่วยดักจับฝุ่นและฟอกอากาศภายในห้องให้คุณสัมผัสกับอากาศสะอาดบริสุทธิ์ เย็นสบายตลอดการพักผ่อน ด้วยการปล่อย ไอออนลบ (Negative Ion) หรือที่เรียกว่า อิเล็กตรอน (Electron) ออกมากับลมแอร์ เพื่อจับตัวกับไอน้ำและเกาะตัวกับมลพิษในอากาศ ไม่ว่าจะเป็น ฝุ่น PM 2.5 เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส ควันบุหรี่ สารก่อเกิดภูมิแพ้ และอื่น ๆ ทำให้มลพิษเหล่านั้นมีน้ำหนักที่มากขึ้น ไม่ฟุ้งกระจาย และตกลงสู่พื้น ก่อนที่จะฆ่าเชื้อไวรัสเหล่านั้นให้ตายหรือแปรสภาพไป ซึ่งผู้ใช้สามารถเปิดใช้งาน X-IONIZER ได้โดยการกดปุ่ม PURE บนรีโมท แล้วสังเกตุการแสดงผลบนหน้าจอหรือบนตัวเครื่อง และหากต้องการปิดฟีเจอร์ X-IONIZER ก็สามารถทำได้โดยการกดปุ่ม PURE บนรีโมทซ้ำอีกครั้งเพื่อทำการปิดการใช้งาน  […]

เช็กก่อนเรียกช่าง 4 วิธี เช็กเครื่องปรับอากาศด้วยตัวเอง

เครื่องปรับอากาศหรือแอร์เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่เราต้องหมั่นดูแลอยู่เสมอ ทำให้เครื่องปรับอากาศมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ และหลายครั้งความผิดปกติที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้แปลว่าแอร์ของเราจะเสียหรือต้องเรียกช่างเสมอไป  วันนี้ ความรู้ คู่แอร์บ้าน จึงขอหยิบ 4 เทคนิคเช็กความผิดปกติของเครื่องปรับอากาศและวิธีแก้ไขเบื้องต้นก่อนจะเรียกช่างซ่อมมาฝากทุกคนกัน! 1. ตรวจสอบรีโมตแอร์ เมื่อแอร์ของเรามีท่าทีแปลกๆ สิ่งแรกที่เราควรตรวจสอบก็คือรีโมตแอร์ โดยต้องเช็กให้ดีว่ารีโมตถ่านหมด ตั้งค่าโหมดผิด ตั้งสปีดพัดลมไม่เหมาะสม หรือมีฟังชันก์ไหนที่ไม่ควรเรียกใช้เปิดอยู่บ้าง เพราะในหลายครั้งปัญหาที่เราพบเจอกันก็มักเกิดจากสาเหตุเหล่านี้ ซึ่งถ้าหากดูแล้วว่าเครื่องปรับอากาศทำงานผิดปกติจากรีโมตแอร์ เราก็แค่เปลี่ยนถ่าน ปรับโหมดการทำงาน หรือซื้อรีโมตอันใหม่มาใช้ก็เพียงพอ 2. ตรวจสอบการติดตั้งแอร์เบื้องต้น หนึ่งปัญหาที่คนใช้แอร์ต้องพบเจอกันอยู่บ่อยๆ ก็คือ เครื่องแอร์ไม่เย็นหรือเย็นช้า ซึ่งในบางครั้งก็เกิดจากการติดตั้งแอร์ ดังนั้นสิ่งแรกที่ควรทำก็คือการตรวจการติดตั้งได้ตามมาตฐานหรือไม่ สารทำความเย็นน้อย หรือรั่ว ตามจุดข้อต่อต่างๆ ของการติดตั้งหรือไม่  และ แอร์มีขนาดที่ไม่เหมาะกับขนาดห้องหรือไม่ สาเหตุนี้อาจต้องย้อนกลับไปถึงตอนติดตั้งแอร์เลย การติดตั้งแอร์ที่ไม่เหมาะกับขนาดห้องทำให้แอร์เย็นไม่ทั่วถึงได้เช่นกัน 3. ตรวจสอบล้างแอร์บ้าน การล้างเครื่องปรับอากาศเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องแอร์เย็นช้า แอร์ไม่เย็นเลย แอร์น้ำหยด หรือแอร์เสียงดัง เพราะปัญหาเหล่านี้มักจะเกิดจากฝุ่นที่เข้าไปเกาะบริเวณฟิลเตอร์แอร์ การอุดตันของท่อแอร์ และน้ำแข็งจับกันเป็นต้น ดังนั้นแล้วเราควรตรวจสอบช่วงเวลาในการล้างแอร์ว่าตรงตามรอบหรือไม่ ซึ่งทั่วไปแล้วเราควรล้างเครื่องปรับอากาศทุกๆ 4-6 เดือนเพื่อทำความสะอาดและยืดอายุการใช้งานด้วย 4. ตรวจสอบ Error […]

รวมอุปกรณ์ Smart Home ที่คนทำบ้านต้องมี!

มีบ้านหลังใหม่ทั้งที สายเทคโนโลยีก็คงต้องห้ามพลาดกับอุปกรณ์ Smart Home ที่จะเพิ่มทั้งความสะดวกสบายและความปลอดภัยภายในบ้าน โดยอุปกรณ์เหล่านี้ถูกเรียกรวมๆ ว่า Smart Home Device เป็นอุปกรณ์อัจฉริยะที่เราสามารถควบคุมการทำงานหรือตรวจสอบการทำงานของมันได้ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต แล้วอุปกรณ์ Smart Home Device ชิ้นไหนที่จำเป็นบ้าง วันนี้เรามีคำตอบมาให้ทุกคนกัน Smart Home Hub สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำบ้านแบบ Smart Home ก็คืออุปกรณ์ Smart Home Hub ตัวกลางที่จะช่วยควบคุมและเชื่อมต่ออุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ เข้าด้วยกัน ทำให้เราสามารถควบคุมอุปกรณ์เหล่านั้นจากจุดไหนของโลกก็ได้ผ่านแอปพลิเคชันเพียงแอปพลิเคชันเดียว และยังสามารถควบคุมได้ผ่านคำสั่งเสียง Voice Control ในระยะใกล้อีกด้วย หลอดไฟและสวิตช์ไฟอัจฉริยะ อุปกรณ์จำเป็นชิ้นต่อมาคือหลอดไฟและสวิตช์ไฟอัจฉริยะที่จะใช้ให้เราควบคุมไฟฟ้าในบ้านได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นได้ด้วย โดยหลอดไฟอัจฉริยะนั้นถูกออกแบบให้สามารถรับสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้ สามารถสั่งเปิด-ปิดไฟ หรือเปลี่ยนแสงสีต่างๆ ได้ตามต้องการผ่านสมาร์ทโฟน  ส่วนสวิตช์ไฟอัจฉริยะนั้นจะมีทั้งหมด 2 รูปแบบด้วยกันคือแบบที่สามารถรับสัญญาณได้ด้วยตัวเอง หรือแบบที่สองคืออุปกรณ์กดสวิตช์ที่นำมาติดไว้เพิ่มเติมเพื่อช่วยกดเปิดและปิดไฟเท่านั้น สวิตซ์ทั้งสองรูปแบบนี้ไม่ได้แตกต่างกันมากนักด้านประโยชน์ใช้สอย แต่รูปแบบที่สองอาจจะเหมาะกับบ้านเก่าที่ต้องการปรับเป็นระบบอัจฉริยะมากกว่า กลอนประตูอัจฉริยะ เรื่องประตูและกลอนเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะมันคือตัวหลักในการป้องกันความปลอดภัยภายในบ้าน ซึ่งคุณสมบัติหลัก ๆ ของกลอนประตูอัจฉริยะก็คือสามารถควบคุมการล็อคหรือปลดล็อคผ่านอินเทอร์เน็ตได้ นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนรหัสผ่าน หรือแชร์การเข้าถึงให้กับคนอื่นๆ […]

เทคนิคเปลี่ยนบ้านแสนรักให้ประหยัดพลังงานขึ้น!

บ้านประหยัดพลังงาน หรือ ECO House อาจจะเป็นโมเดลบ้านของโลกอนาคตที่จะทำให้เราและธรรมชาติอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น แต่การจะเปลี่ยนบ้านที่เราอยู่ปัจจุบันให้ไปถึงระดับนั้นต่างมีข้อจำกัดมากมายและต้องใช้งบประมาณสูง เราจึงอยากหยิบเทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยประหยัดพลังงานและประหยัดค่าไฟบ้านมาฝากกัน เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED บ้านหลาย ๆ หลังมักจะชินกับการใช้หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ หรือ หลอดตะเกียบ เพราะมีราคาค่อนข้างถูก หาซื้อง่าย และอายุการใช้งานค่อนข้างยาวนาน แต่ข้อเสียของหลอดตะเกียบก็คือมันกินไฟค่อนข้างเยอะ ทำให้มีการพัฒนาหลอด LED ซึ่งมีกำลังวัตต์น้อยกว่ามาก ตัวหลอดร้อนยากกว่า และอายุการใช้งานนานกว่า ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายได้มากยิ่งขึ้น เปลี่ยนตำแหน่งการวางตู้เย็น ตำแหน่งการวางตู้เย็นที่เหมาะสมก็สามารถช่วยประหยัดพลังงานได้เช่นกัน โดยเราควรวางตู้เย็นในตำแหน่งที่มีอากาศถ่ายเท หลีกเลี่ยงให้ไม่โดนแสงแดดหรือความร้อนโดยตรง ไม่วางตู้เย็นใกล้กับเครื่องมือให้ความร้อนเช่น เตาแก๊ส หรือ เตาอบ  ควรจัดตำแหน่งของตู้เย็นให้มีระยะห่างจากฝ้าเพดานอย่างน้อย 30 ซม. ด้านข้างห่างจากกำแพงห้องอย่างน้อย 5 ซม. และด้านหลังห่างจากผนังอย่างน้อย 10-20 ซม. เพื่อให้ตู้เย็นสามารถระบายความร้อนได้สะดวก นอกจากนี้เราควรแยกปลั๊กไฟที่ใช้เสียบปลั๊กตู้เย็นออกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรด้วย เปลี่ยนมาใช้ผ้าม่านกันแสง ความร้อนภายในบ้านคือส่วนหนึ่งที่ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลาย ๆ ชิ้นต้องทำงานหนักยิ่งขึ้น การเปลี่ยนมาใช้ผ้าม่านกันแสงนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลดอุณหภูมิของบ้านได้ โดยผ้าม่านกันแสงมีคุณสมบัติเพื่อกันแสงแดด แสง UV และความร้อนที่ส่องเข้ามาในบ้านของเรา โดยสามารถกันแสงแดดได้ตั้งแต่ […]

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save